กฎระเบียบที่เข้มงวดของไทยทำให้ SCB ชะลอการเข้าซื้อกิจการ Bitkub

 

ธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยไม่สามารถรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของประเทศได้ เนื่องจากกฎระเบียบด้าน Crypto ที่เข้มงวด

ตามที่ Cointelegraph รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 SCB X Group ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ถูกกำหนดให้เข้าซื้อหุ้น 51% ใน Bitkub ภายในไตรมาสที่สองของปี 2565 โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะเป็น Fintech ระดับภูมิภาค ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเนื่องจากธนาคารได้เลื่อนแผนการรับการแลกเปลี่ยนที่เป็นที่นิยมอย่างไม่มีกำหนด

เนื่องจากการซื้อขาย crypto ยังคงถูกขัดขวางโดยกฎระเบียบ SCB X ได้ตัดสินใจอย่างไม่มีกำหนดที่จะไม่เดินหน้าต่อไปด้วยข้อเสนอ 487 ล้านดอลลาร์สำหรับสัดส่วนการถือหุ้น 51% ใน Bitkub ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลรายใหญ่ของประเทศไทย

ตามรายงานของ Nikkei Asia เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัทแม่ของ SCB SCB X ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว “ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานะทางการเงิน” เจ้าหน้าที่อาวุโสของ SCB X บอกกับทาง SCB X ว่าทีมไม่ทราบว่าข้อตกลงจะถูกผนึกเมื่อใด

ข่าวการเลื่อนกำหนดเปิดเผยเมื่อต้นเดือนนี้ เมื่อ SCB X ได้ส่งจดหมายถึงตลท. สรุปสถานการณ์ปัจจุบัน อาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCB X กล่าวว่า:

“ขณะนี้ เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบและหารือกับหน่วยงานกำกับดูแล ดังนั้นระยะเวลาที่เสร็จสมบูรณ์ของการทำธุรกรรมจึงขยายออกไปในขณะนี้”

ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มี Crypto ที่ก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย โดยผู้ค้าได้รับการยกเว้นภาษีและตลาดที่มีการควบคุมสำหรับการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล การแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมาก รวมถึง Binance และ Huobi ต่างประสบปัญหากับแนวทางการจำกัดด้านกฎระเบียบในประเทศมาก่อน

เมื่อต้นปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศกฎระเบียบและข้อ จำกัด ในการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าสกุลเงินดิจิทัลสามารถซื้อขายได้เป็นสินทรัพย์บนแพลตฟอร์มที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ข่าวดังกล่าวมีขึ้นเมื่อราคาคริปโตทั่วโลกร่วงลงและทำลายการมองในแง่ดีของการซื้อขาย Crypto ยิ่งกว่านั้น ซึ่งทำให้ Bitkub ทะเยอทะยานในการเพิ่มฐานลูกค้า

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม สำนักงาน ก.ล.ต. ได้กำหนดโทษทางแพ่งกับสกลกรณ์ สาควี ประธาน Bitkub Capital Group Holdings ฐานสร้างข้อมูลปริมาณการซื้อขาย เขาถูกปรับ 216,000 ดอลลาร์ (8 ล้านบาท) และถูกแบนจากตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทเป็นเวลาหนึ่งปี

ที่มา : cointelegraph

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn