นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เผย จากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของ Covid -19 หรือสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย- ยูเครน อัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูงทั่วโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน (พน.) ก็ได้มีการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบของราคาพลังงานที่สูงขึ้น เพื่อลดภาระค่าครองชีพ และได้ทำการหาวิธีในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการมาตลอด
จากการประชุม กบง. มีการพิจารณาถึงวิธีที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมัน รวมถึง ทบทวนราคา LPG และ NGV เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยที่ประชุมมีมติดังนี้
1.การขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวสูงขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2565 โดยให้คงสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ร้อยละ 5 และขอความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันให้ตรึงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล ให้ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้กระทรวงพลังงาน จะมีการติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปาล์มน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันปาล์ม ให้นำเสนอ กบง. พิจารณาต่อไป
2.ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (LPG)
ในเดือนตุลาคม มีการให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มที่ราคา 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมต่อไปอีก 1 เดือน (1-31 ตุลาคม 2565) และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน จัดทำแนวทางการช่วยเหลือ มุ่งเป้าไปที่ก๊าซ LPG ในภาคครัวเรือน เพื่อลดภาระค่าครองชีพ
3.ปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไป
กบง. ได้มีมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงมาโดยตลอด จากสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าต้นทุนราคาก๊าซ NGV ในช่วงปลายปี 2565 อาจปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 29 ถึง 34 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ภาครัฐยังคงตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการในธุรกิจ NGV
ดังนั้น เพื่อลดการบิดเบือนราคาพลังงานและให้ประชาชนตระหนักรู้ถึงต้นทุนราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น กบง. จึงมีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกของก๊าซ NGV สำหรับรถยนต์ทั่วไปเพียง 1 บาทต่อกิโลกรัม จาก 15.59 บาทต่อกิโลกรัมเป็น 16.59 บาทต่อกิโลกรัม
และให้คงมาตรการช่วยเหลือกลุ่มรถแท๊กซี่ในโครงการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกันของ ปตท. โดยให้สามารถซื้อก๊าซ NGV ในราคาเดิมที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2565 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2565
5.พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณราคาเชื้อเพลิงชีวภาพ อย่าง ไบโอดีเซล และ เอทานอล
โดยได้มีมติเห็นชอบดังนี้
(1) หลักเกณฑ์การคำนวณราคาไบโอดีเซลอ้างอิง การใช้การคำนวณราคาที่อ้างอิงจากต้นทุนการผลิต (Revised Cost Plus) โดยลดวัตถุดิบเหลือ 2 ชนิด คือ น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และสเตียรีน (ST) และ ปรับอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ที่ 5% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
(2) หลักเกณฑ์การคำนวณราคาเอทานอลยังคงอ้างอิง ตามการคำนวณราคาอ้างอิงราคาตลาด (Market Price) โดยใช้ราคาจากการเปรียบเทียบราคาต่ำสุดระหว่างเอทานอลเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ผู้ผลิตรายงานต่อกรมสรรพสามิต กับราคาเอทานอลเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 รายงานต่อ สนพ. โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ที่มา : efinancethai