KBank ร่วมมือกับ JMT รวมทุนกันกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อจัดตั้ง JK AMC เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
ในวันที่ 29 มิ.ย. 65 นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด ทำให้สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ หรือ NPL มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น การร่วมลงทุนกันเพื่อจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด หรือ JK AMC ขึ้นมานั้น เป็นตัวช่วยในการบริหารหนี้เสียของธนาคารเพิ่มเติม หรือการเปิดประมูล และในส่วนของการขายหนี้เสียให้ JK AMC โดยธนาคารจะเลือกวิธีการบริหารที่มีประสิทธิภาพและให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
ธนาคารจะได้รับเงินจากการขายหนี้และจะได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไรของการบริหารหนี้จาก JK AMC ด้วย สำหรับผู้ถือหุ้น JK AMC ในสัดส่วน 50% ซึ่งธนาคารลงทุนผ่านบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด โดยธนาคารกสิกรไทยมีแผนโอนขายหนี้ NPL ให้ JK AMC จำนวน 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2565 ซึ่งจะส่งผลให้ NPL และการตั้งสำรองในอนาคตของธนาคารลดลงและมีโอกาสสร้างรายจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ได้
ด้านนายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Jay Mart และกรรมการ JMT Network Services กล่าวว่า แนวโน้มที่หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 90% ของ GDP ความเปราะบางของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยิ่งจะทำให้สถานการณ์หนี้ด้อยคุณภาพมีโอกาสเพิ่มขึ้น ซึ่งการแก้ปัญหาคือนโยบายส่งเสริมการนำกลไกของ AMC มาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด
สำหรับ JK AMC ถือเป็นบริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทยที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ด้วย JMT มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจนี้ รวมทั้งยังมีบริษัทในเครือที่จะช่วยให้ JK AMC ดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายและมีต้นทุนที่แข่งขันได้
นอกจากนี้การจัดตั้ง JK AMC ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือผ่านข้อเสนอการชำระหนี้ที่เหมาะสม เมื่อปรับตัวดีขึ้นก็จะสามารถกลับมาขอสินเชื่อในระบบต่อไป
JK AMC มีเงินทุนเริ่มต้นในการจัดตั้งบริษัทจำนวน 10,000 ล้านบาทดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพโดยการซื้อหนี้เสียทั้งที่มีหลักประกัน หรือ Secure และไม่มีหลักประกัน จากธนาคารกสิกรไทย สถาบันการเงิน และบริษัทอื่นๆ มาบริหารจัดการ โดยบริษัท JK AMC ได้ถูกจัดตั้งอย่างเป็นทางการ และเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือนมิ.ย.65 นี้เป็นต้นไป
สำหรับเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายใน 3 ปีนี้ศักยภาพทางธุรกิจของ JK ที่จะส่งเสริมให้ไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจได้คือ
- เพิ่มความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารหนี้ของ JMT และ JMT ยังมีบริษัทในกลุ่มที่จะช่วยให้ JK AMC มีต้นทุนที่สู้ได้
- การหาช่องทางในการประชาสัมพันธ์ทรัพย์ NPA ไปสู่ลูกค้าที่สนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ให้ทั่วประเทศ
- โอกาสเพิ่มมูลค่าธุรกิจอื่นๆ ให้ครบวงจร เช่น การรับปรับปรุงบ้านให้กับผู้ซื้อทรัพย์ด้อยคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล การช่วยเหลือลูกค้าที่มีประวัติเครดิตที่ดี เป็นต้น
ที่มา : thairath
