ชายชาวไต้หวันตัดสินใจฆ่าตัวตายหลังจากสูญเสียเงินกว่า 60 ล้านดอลลาร์ไต้หวันจาก Luna Crypto

 

ไทเป (ข่าวไต้หวัน) ชายคนหนึ่งในเมืองไทจงถูกพบว่าเสียชีวิตในวันอังคาร (24 พ.ค.) จากการกระโดดลงมาจากอพาร์ตเมนต์ของเขา เป็นการฆ่าตัวตายหลังจากสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลจากการล่มสลายของ Luna

NOWnews ได้รายงานว่า เมื่อเวลา 02.00 น. ของวันอังคารในเขตพัฒนาขึ้นใหม่แห่งที่ 7 ของไทจง มีรายงานว่ามีผู้อยู่อาศัยรายหนึ่งตกลงมาจากตึกอพาร์ตเมนต์สูงระฟ้าสุดหรูของเขา รปภ. ที่ทำงานกะกลางคืนได้ยินเสียงดัง จึงรีบออกไปตรวจสอบ พบชายบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่ที่พื้น

เมื่อตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นได้ชัดในทันทีว่าชายคนนั้นเสียชีวิตแล้ว การตรวจสอบอาคารอพาร์ตเมนต์ทีละชั้นเผยให้เห็นว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้เช่าอายุ 29 ปี ชื่อนายอู๋ (吳) ซึ่งอาศัยอยู่ชั้นที่ 13

นายอู๋ ไม่ได้ทิ้งบันทึกการฆ่าตัวตายไว้อย่างชัดเจน และไม่มีวี่แววของการบุกรุกหรือการดิ้นรนใดๆ เจ้าหน้าที่ยังไม่รวมการเสียชีวิตจากโควิด เนื่องจากเขามีผลตรวจเป็นลบ

หลังจากตรวจสอบโทรศัพท์ของเขา อัยการพบว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอู๋ได้ร้องเรียนกับญาติและเพื่อนๆ ของเขาว่ามูลค่าของโทเค็น Luna ที่เขาสะสมได้ลดลง 99% ภายในเวลาเพียงสองวัน

สิ่งนี้ทำให้เขาต้องเสียเงินจำนวนมากและทำให้เขากลายเป็นซึมเศร้า ตามข้อความที่ส่งแลกเปลี่ยนกัน เขาลงทุน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (58.63 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน) ในโทเค็น Luna แต่หลังจากการล่มสลายของ Luna เขาเหลือเพียงแค่ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ตำรวจเสริมว่า ข้อตกลงทางการเงินของ นายอู๋ และสาเหตุของการเสียชีวิตของเขา ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน

บล็อกเชนที่จัดการ TerraUSD Stablecoin และเหรียญเครืออย่าง Luna ได้หยุดการทำธุรกรรมใหม่ในวันที่ 13 พฤษภาคม หลังจากที่ทั้งสองล่มสลาย ในเดือนนั้น TerraUSD ซึ่งผูกติดอยู่กับดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านความเกี่ยวดองแบบกระบวนการที่ซับซ้อนกับ Luna ร่วงลงเหลือ 10 เซ็นต์ ทำให้ Luna พังจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 119.51 ดอลลาร์สหรัฐเป็น “เกือบเป็นศูนย์” บลูมเบิร์กรายงาน

ผู้ที่จะตัดสินใจฆ่าตัวตายควรโทรติดต่อศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายของไต้หวันทันทีที่หมายเลข 1925 หรือ Taiwan Lifeline International ที่หมายเลข 1995 ชาวต่างชาติสามารถโทรไปที่สายด่วนฉุกเฉินของศูนย์บริการชุมชนที่หมายเลข 0932-594-578 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา : taiwannews

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn