ธนาคารกรุงไทยเผย! ตั้งแต่เมื่อต้นปีถึงปัจจุบัน เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยได้ลดลงแล้วถึง 2.8 หมื่นล้านเหรียญ ในขณะเดียวกันที่เงินบาทนั้นอ่อนค่าทะลุ 36 บาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 33 บาท คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย จะเข้ามาดูแลค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนไปมากว่านี้
ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 นักข่าวรายงานว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทะลุ 36 บาทต่อเหรียญสหรัฐในช่วงนี้ ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลว่า จะทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลออก ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้นออกมายืนยันว่าจะไม่แทรกแซงค่าเงินบาท จะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าระดับกลาง เมื่อเทียบกับภูมิภาค และเข้าดูแลเมื่อมีความผันผวนผิดปกติเท่านั้น
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินและตลาดทุนของธนาคารกรุงไทยได้เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าการเข้าไปดูแลค่าเงินบาท (Intervene) ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในช่วงที่ค่าเงินมีความผันผวนผ่านการใช้เงินเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (Foreign exchange reserves)
และที่สำคัญ จะพบว่า ในช่วงต้นปี 2565 ธนาคารแห่งประเทศไทยมีเงินทุนสำรองฯ อยู่ที่ 2.79 แสนล้านเหรียญ แต่ปัจจุบัน (ข้อมูลอัพเดต ณ 24 มิ.ย.2565) เงินทุนสำรองฯ ปรับลดลงเหลือ 2.51 แสนล้านเหรียญ หรือคิดเป็นเงินทุนสำรองฯ ลดลงราว 2.8 หมื่นล้านเหรียญ สะท้อนว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เข้าไปช่วยในการชะลอเพื่อไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนหรือเคลื่อนไหวเร็วหรือแรงเกินไป
ทั้งนี้ คาดว่าตอนนี้เงินทุนสำรองฯ น่าจะปรับลดลงอีกจาก 2.51 แสนล้านเหรียญ เนื่องจากค่าเงินยังมีความผันผวนสูง ทำให้ก็มีโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะเข้ามาดูแลค่าเงินไม่ให้ผันผวนเร็ว เพราะจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออก และหากดูเงินทุนสำรองฯ ยังค่อนข้างแข็งแรง และยังมีช่องว่าง (รูม) ที่สามารถเข้าดูแลค่าเงินได้
ในวันนึงถ้าได้ย้อนกลับไปในช่วงเศรษฐกิจดีๆ ของไทยทยอยสะสมเงินทุนสำรองฯ ไว้ต่อเนื่อง ดังนั้น ประเทศไทยไม่ได้มีปัญหา เพราะหนี้ต่างประเทศระยะสั้นไม่สูง และเทียบเงินทุนสำรองฯ ปัจจุบันสูงกว่าหนี้ต่างประเทศระยะสั้นถึง 2-3 เท่า ซึ่งภาพแตกต่างจากปี 2540
ประกอบกับสถานการณ์การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะทยอยฟื้นตัวกลับมาได้ จะเป็นแรงหนุนเติมเงินทุนสำรองฯ ของไทยเพิ่มขึ้น และในช่วงต้นปีที่ผ่านมาไทยก็สะสมเงินทุนสำรองฯ ไว้ค่อนข้างมาก
“ถ้าเงินบาทยังคงผันผวนสูงก็มีโอกาสที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้ามาดูแล เพราะ ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องการรักษาให้ค่าเงินไม่ให้ผันผวนเร็วหรือแรงเกินไป ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เราเห็นการขายดอลลาร์และซื้อเงินบาทค่อนข้างเยอะ ในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.2565 ก่อนสงครามรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นจังหวะที่พอดีกับราคาที่เงินบาทอ่อนค่าเร็ว จาก 33.00 บาทต่อเหรียญ ไปอยู่ที่ 34.80 บาทต่อเหรียญ และเงินทุนสำรองฯ จากอยู่ที่ 2.75 แสนล้านเหรียญ พอมาช่วงกลาง พ.ค.ก็ลดลงเหลือ 2.56 แสนล้านเหรียญ อย่างไรก็ดี ตอนนี้เราไม่มีปัญหาเรื่องทุนสำรองฯ ที่จะเข้าไปดูแลค่าเงินเลย เรายังมีรูม” นายพูนกล่าว
ที่มา : prachachat
