วันที่ 20 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ยังคงทำหน้าที่อย่างเรียบร้อย
และได้มีการพูดถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงในขณะนี้อีกด้วย โดย พล.อ.ประวิตร แสดงถึงความห่วงในประเด็นนี้ เนื่องจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวนั้นจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าต้นทุนการผลิตต่างๆ ทำให้แพงขึ้น ซึ่งจะกระทบค่าครองชีพ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคอาจจะขยับสูงขึ้น
จึงได้มีการกำชับให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยประคองให้ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอ่อนค่ามาถึง 37 บาท โดยไม่อยากให้เกิดสถานการณ์ซ้ำเหมือนกับตอนสมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ค่าเงินบาทลอยตัวไปถึง 54 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยพูดทีเล่นที่จริงว่า “แบบนั้นตายห่าเลย ขอให้ดำเนินการโดยด่วน” ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากรัฐมนตรีในห้องประชุม
และนอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้มีการเล่าให้ ครม.ทราบถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการของตนเอง โดนมีการนำข้อร้องเรียนจากประชาชนในการลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 กันยายน เพื่อนำมามาสั่งการในที่ประชุม เช่น
- สั่งการไปยังกระทรวงคมนาคม เร่งรัดเส้นทางคมนาคมยะลา-เบตง ที่เกิดความล้าช้า
- .การสั่งบูรณะวัดในพื้นที่ ที่ไม่ได้รับการบูรณะมากว่า 100 ปี
- เรื่องของเสาไฟฟ้าในพื้นที่ ที่ชาวบ้านร้องขอ เพื่อสนับสนุนด้านการเกษตร ปศุสัตว์
และซึ่งอย่างไรก็ตาม หลังการลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ พล.อ.ประวิตร ในฐานะทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นที่น่าสังเกต มักจะมีการนำข้อร้องเรียนจากประชาชน ในการลงพื้นที่มาเล่าพร้อมสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยลงลึกในรายละเอียดต่างๆ
ทั้งนี้ หลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นใดเป็นพิเศษกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด
ที่มา : mgronline