เหตุการณ์การล้มละลายของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอันดับ 2 ของโลกอย่าง FTX ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่ง ผลกระทบ ต่อตลาดคริปโตฯ ในหลากหลายมิติ ทั้งความเสียหายในรูปของมูลค่าสินทรัพย์ที่สูญหายไป ความน่าเชื่อถือของผู้คนที่มีต่อตลาด และคลื่นใต้น้ำอีกจำนวนมากที่รอกระปะทุในวันใดวันหนึ่งหลังจากนี้ ในบทความนี้เราจึงชวนผู้อ่านมาสำรวจประเด็นที่ควรจับตามองต่อไปจากนี้ เพื่อเป็นการปกป้องความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ของตัวท่านเอง และรู้เท่าทันสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด
FTX ล้มละลายส่ง ผลกระทบ ต่อตลาดอย่างไร?
แน่นอนว่าเมื่อศูนย์ซื้อขายที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของตลาดล้มละลายลง ย่อมต้องส่งผลกระทบต่อตลาดเป็นวงกว้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัญหาในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นทุกฝ่ายที่อยู่ตลาดนี้ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบกิจการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นักลงทุนผู้ลงทุนในตลาด ผู้ออกกฎระเบียบควบคุม(Regulator) ฯลฯ ซึ่งเราจะอธิบายเรียงไปในแต่ละประเด็น
ผลกระทบ ต่อราคาคริปโคฯ
หลังจากที่เกิดปัญหาขึ้นกับศูนย์ซื้อขาย FTX ไม่เพียงแต่เหรียญ FTT ที่เป็นโทเคน(Token) ประจำแพลตฟอร์มของ FTX หรือเหรียญ BNB ของ Binance ที่เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วยเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ยังมีเหรียญ SOL(Soraln) และ SRM(Serum) ที่อยู่ในรายชื่อสินทรัพย์ของบริษัท Alameda research ด้วย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเรื่องที่เกิดขึ้น โดยราคาเหรียญ SOL ร่วงลงทันทีกว่า 60% หลังจากที่เกิดเรื่อง จากราคาเหรียญละ 35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงมาอยู่ที่ 13 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเหรียญ SRM มูลค่าลดลงอย่างมาก จากราคา 0.8 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 0.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 80% รวมไปถึงเหรียญคริปโตฯเหรียญอื่น ๆ ในตลาดด้วยที่มูลค่าปรับตัวลดลงเช่นกัน
ความเชื่อมั่นต่อศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
เหตุการณ์ในครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากเหตุการณ์การล่มสลายของเหรียญคริปโตฯ ครั้งก่อนหน้าอยู่พอสมควร เนื่องจากไม่ได้เกิดขึ้นกับการออกแบบระบบโครงสร้างการทำงานพื้นฐานของเหรียญหรือระบบนิเวศ แต่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ Sam Bankman-Fried CEO คนก่อนของ FTX ที่นำเหรียญ FTT ของตนเองมาเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน(Collateral Asset) ให้กับบริษัท Alameda research ที่ตัวเองเป็นผู้ก่อตั้งอีกเช่นกัน ความเชื่อมั่นในเหรียญ FTT จึงหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อตลาดทราบข่าว เพราะเนื่องจาก Sam สามารถสร้างเหรียญและเพิ่มมูลค่าของบริษัทตัวเองขึ้นเป็นเท่าไหร่ก็ได้
นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดและ Exchange FTX
ในช่วงแรกก่อนที่เหตุการณ์จะรุนแรงและบานปลายส่งผลกระทบต่อกันเป็น Domino Effect อย่างในปัจจุบัน Sam เคยออกมาประกาศผ่านทวิตเตอร์ของตัวเองว่า “FTX ยังคงปลอดภัย สินทรัพย์ทั้งของผู้ใช้บริการด้วยเช่นกัน” แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทวิตดังกล่าวได้ถูกลบออกไปจากบัญชีของเขา และกระดานเทรดของเขาก็ปิดการถอนเงินทุกประเภทในเวลาต่อมา ทำให้ผู้ใช้บริการที่ฝากเงินไว้ไม่สามารถถอนเงินออกจากโบรคฯได้ ส่วนนักลงทุนอื่นที่แม้จะไม่มีเงินฝากอยู่ใน FTX แต่ก็ต้องรับผลกระทบทางอ้อมจากมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดที่ลดลงด้วยเช่นกัน
สภาพคล่องของตลาด
มีข้อมูลการถอนสินทรัพย์ทั้ง Stable coin และเหรียญทั่วไปออกจากแต่ละ Exchange จำนวนมหาศาล ไม่เพียงแต่เฉพาะ FTX ที่เป็นข่าวขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังกระทบต่อความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อกระดานซื้อขายอื่นอีกด้วย ทำให้ปัญหาขาดแคลนสภาพคล่องเป็นเรื่องน่ากังวลที่อาจเกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้ ผู้ที่ยังมีสินทรัพย์ฝากไว้กับศูนย์ซื้อขายอื่นจึงควรติดตามข่าวสารให้ดี