รายงาน เผย! เยอรมนีทิ้งห่างสหรัฐฯ หลังเศรษฐกิจคริปโตขึ้นอันดับต้นๆ ในไตรมาสที่ 3

 

เยอรมนีได้กลายเป็นเศรษฐกิจคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกในไตรมาสที่สามของปี 2022 ตามรายงานใหม่ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ถืออันดับสูงสุดร่วมจากไตรมาสที่แล้วตกลงไป 6 อันดับ รั้งอันดับที่ 7 ในเศรษฐกิจคริปโตชั้นนำ

การจัดอันดับเศรษฐกิจคริปโต ที่รวบรวมโดย Coincub พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น แนวโน้มของคริปโตที่ดี กฎภาษีคริปโตที่ชัดเจน การสื่อสารด้านกฎระเบียบที่โปร่งใสมากขึ้น และอื่นๆ เพื่อจัดอันดับประเทศ

เยอรมนีแม้ว่าจะไม่ใช่ที่หลบภัยทางภาษี แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคริปโต “ภาษีแบบดั้งเดิม” ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือคริปโต ในระยะยาว กฎหมายของเยอรมนีเรียกเก็บภาษีเป็นศูนย์สำหรับการถือครองคริปโต มานานกว่าหนึ่งปี

สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับที่สองด้วยจุดยืนด้านกฎระเบียบด้านคริปโตในเชิงบวกและเป็นที่ตั้งขององค์กรคริปโตชั้นนำของโลก สามอันดับถัดมาในรายการถูกซื้อกิจการโดยออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสิงคโปร์ ตามลำดับ

ออสเตรเลียแสดงความต้องการอย่างมากสำหรับคริปโต และรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนอย่างเท่าเทียมกันในปีที่ผ่านมา ผลักดันกฎหมายคริปโต ในเชิงบวกพร้อมกับนโยบายภาษีที่สมเหตุสมผล UAE ลงทุนอย่างหนักใน Web3 และมีนโยบายภาษีศูนย์ที่น่าสนใจมากสำหรับกำไรจากคริปโต ในทางกลับกัน สิงคโปร์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะโรงไฟฟ้าคริปโตในเอเชีย โดยมีประชากรจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายและการลงทุนคริปโต

สหรัฐฯ ตกลงมาอยู่ที่อันดับที่ 7 เนื่องจากนโยบายภาษีคริปโต ที่ไม่เอื้ออำนวยและขาดความชัดเจนในการสิ้นสุดกฎระเบียบ อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศเดียวที่อนุญาตให้คริปโตเป็นส่วนหนึ่งของเงินบำนาญในที่ทำงานเชิงกลยุทธ์ ด้วยกฎระเบียบที่สำคัญบางประการของกฎหมายคริปโตที่อยู่ภายใต้การทำงาน สหรัฐฯ อาจเห็นการปรับปรุงที่สำคัญในการจัดอันดับภายในไตรมาสหน้า

ในบรรดาประเทศที่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับคริปโตอันดับต้น ๆ ที่กำหนดโดยจำนวนการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับ “Bitcoin” เอลซัลวาดอร์ติดอันดับรายการอีกครั้ง ตามด้วยไนจีเรียและสาธารณรัฐอัฟริกากลาง

พบว่าประชากรเวียดนามเป็นผู้กักตุนคริปโตที่ใหญ่ที่สุด โดยมีประชากรมากกว่า 20 ล้านคนหรือเกือบ 20% ลงทุนในคริปโต สหรัฐอเมริกามีผู้ถือคริปโต มากกว่า 46 ล้านคนหรือเกือบ 13% ของประชากรที่ลงทุนในคริปโต

ที่มา : cointelegraph

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn