Federal Reserve กำลังเริ่มกระบวนการตัดทอนงบดุลมูลค่า 9 ล้านล้านดอลลาร์ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า Quantitative Tightening (QT)
นักวิเคราะห์จากบริษัทแลกเปลี่ยนCryptoและการลงทุนทางการเงินมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับว่า QT ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน จะสามารถยุติการเติบโตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาดCryptoเป็นเวลากว่าทศวรรษ
The worst part about this is that I would imagine ~80% of Americans have no idea what QUANTITIVE TIGHTENING is
— WendyO.eth ✨ (@CryptoWendyO) May 31, 2022
Why would we, this wasn’t taught in public school
The SEC should worry about educating Americans on these terms as I believe that’s part of “PROTECTING” us https://t.co/Z8RwUNPJwF
คนธรรมดาสามารถพิจารณา QT ว่าตรงกันข้ามกับ Quantitative Easing (QE) หรือการพิมพ์เงินที่ Fed มีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดใหญ่ของ Covid-19 ในปี 2020 ภายใต้เงื่อนไข QE จะมีการสร้างและแจกจ่ายเงินมากขึ้นในขณะที่ FED เพิ่มพันธบัตรและ ตราสารการเงินอื่นๆ ลงในงบดุล
Fedวางแผนที่จะลดงบดุลลง 47.5 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนในอีกสามเดือนข้างหน้า ในเดือนกันยายนของปีนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะลดหย่อนเงินจำนวน 95 พันล้านดอลลาร์ ตั้งเป้าที่งบดุลจะลดลง 7.6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2566
Bitcoin has never once in its history been in a bull market while the Federal Reserve did quantitative tightening.
— CryptoWhale (@CryptoWhale) May 4, 2022
Smart whales spent the last 12+ months dumping their bags on dumb retail.
The mega crash is inevitable!
Tom Matthews ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารของบริษัทแลกเปลี่ยนCrypto ในออสเตรเลีย Swyftx เชื่อว่า QT อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาด เขาบอกกับ Cointelegraph เมื่อวันพุธว่า “เป็นไปได้มากที่คุณจะเห็นการเติบโตของมูลค่าตลาดลดลงเล็กน้อย”
“Fedกำลังคัดแยกสินทรัพย์มากขึ้นและเร็วกว่าที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดไว้ และเป็นการยากที่จะจินตนาการว่าสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาด”
เริ่มในเดือนมีนาคม 2020 ผลกระทบของ QE ต่อตลาด Crypto นั้นน่าทึ่งมาก ข้อมูล CoinGecko แสดงให้เห็นว่ามูลค่าตลาดของ crypto ลดลงจนถึงปี 2019 และต้นปี 2020 แต่ตลาดขาขึ้นที่สดใสเริ่มขึ้นในปลายเดือนมีนาคม 2020 เนื่องจากเครื่องพิมพ์เงินเริ่มทำงาน มูลค่าตลาดรวมของCrypto เพิ่มขึ้นจาก 162 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 23 มีนาคม 2020 สู่ระดับสูงสุดเพียง 3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ในช่วงเวลาเดียวกัน งบดุลของเFedเพิ่มขึ้น 2.1 เท่าจาก 4.17 ล้านล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็น 8.95 ล้านล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 นั่นคืออัตราการเพิ่มขึ้นที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกครั้งล่าสุดที่เริ่มต้นในปี 2550
Nigel Green บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินของ deVere Group เชื่อว่าปฏิกิริยาของตลาดต่อ QT จะน้อยที่สุดเพราะ “มีราคาอยู่แล้ว” Greenกล่าวว่าอาจมี “ปฏิกิริยาตอบโต้จากตลาด” เนื่องจากความเร็วที่ไม่คาดคิดซึ่ง QT กำลังเปิดตัว แต่เขาเห็นว่ามันเป็นมากกว่าการโครงเคลงเล็กน้อย
“นอกจากนี้ เราคาดว่าตลาดจะตีกลับในเร็วๆ นี้ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนควรวางตำแหน่งพอร์ตการลงทุนเพื่อใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้”
การเพิ่มขึ้นของค่าจ้างในเหล่าคนงานชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการบริการ ได้รับการสังเกตแล้วเนื่องจากความต้องการแรงงานยังคงสูง สมมติว่าค่าจ้างยังคงสูงตลอด QT สหรัฐฯ อาจโผล่ออกมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำด้วยความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ที่ลดลง Economiser นักวิเคราะห์ตลาด Crypto อธิบายในทวีตเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมว่า หากผู้คนปิดท้ายด้วยเงินสดในกระเป๋ามากขึ้นจากค่าจ้างที่สูงขึ้น “ตลาด crypto ในที่สุดจะได้รับประโยชน์จาก QT
In March, the Fed hiked interest rates for the first time in four years.
— Economiser (@economiserly) May 30, 2022
One impact of higher interest rates is to ↓ the demand for labor without raising unemployment levels.
Higher interest rates = lower consumption, which = lower demand for labor.https://t.co/r7vHY4o9PT
Matthews แห่ง Swyftx กล่าวเสริมว่าในขณะที่ตลาดกำลังประสบกับความผันผวนที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ Bitcoin (BTC) อาจได้รับประโยชน์ เนื่องจากขณะนี้ได้แสดงให้เห็นตำแหน่งในฐานะสินทรัพย์ที่คุ้มทุนแล้ว เขาตั้งข้อสังเกตว่าการครอบโดดเด่นของ Bitcoin ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 47% เพิ่มขึ้นแปดเปอร์เซ็นต์จากจุดเริ่มต้นของปี 2022 เขากล่าวว่า “มีวิธีการตีความสิ่งนี้ต่างกัน” เพิ่ม:
“แนะนำว่าผู้เข้าร่วมตลาดกำลังมองหามูลค่า Bitcoin ซึ่งหมายความว่าเราอาจเห็นความอ่อนแอยังคงมีแนวโน้มในตลาด alt coin หากสภาพตลาดในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป”
ที่มา : cointelegraph
