เปิดสาเหตุสำคัญ ทำไม AIS จึงทุ่มเงินเข้าซื้อกิจการ 3BB กว่า 3.2 หมื่นล้านบาท

เริ่มต้นด้วยข้อมูลผลการสำรวจมูลค่าตลาดสื่อสารของประเทศไทยประจำปี 2564 และประมาณการปี 2565 จาก กสทช. (สำนักงานคณะกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) พบว่า

  • มูลค่าบริการโทรศัพท์ประจำที่ในปี 2564 อยู่ที่ 6,710 ล้านบาท
  • มูลค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปี 2564 อยู่ที่ 252,245 ล้านบาท
  • มูลค่าบริการอินเตอร์เน็ตประจำที่ในปี 2564 อยู่ที่ 78,480 ล้านบาท
  • มูลค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศในปี 2564 อยู่ที่ 4,620 ล้านบาท
  • มูลค่าบริการสื่อสารข้อมูลในปี 2564 อยู่ที่ 23,620 ล้านบาท

 

ซึ่งทางบริษัท 3BB นั้นได้รับใบอนุญาติให้ดำเนินกิจการได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2549 แล้ว ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจอยู่ในรูปแบบของการบริการโทรศัพท์ประจำที่และบริการอินเตอร์เน็ตประจำที่หรืออินเตอร์เน็ตบ้านนั้นเอง 

 

ทำไม AIS ต้องซื้อกิจการของ 3BB ?

หากสืบค้นข้อมูลลึกลงไปอีกจะพบว่าในกิจการที่ 3BB ประกอบธุรกิจอยู่นั้นค่อนข้างทำได้ดีกว่าของ AIS มากพอสมควร ในด้านบริการโทรศัพท์ประจำที่ภายในประเทศ มีผู้ให้บริการอยู่ 7 ราย ซึ่ง AIS หรือ  บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 2.54% ส่วน 3BB หรือ  บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 1.97% ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่ามีความใกล้เคียงกัน เพราะผู้ที่ครอบครองตลาดนี้ได้แก่ บริษัท โทรคมนำคมแห่งชำติ จำกัด (มหาชน) ที่กินส่วนแบ่งไปกว่า 67.66%

 

แต่ส่วนสำคัญนั้นอยู่ที่บริการอินเตอร์เน็ตประจำที่หรืออินเตอร์เน็ตบ้านที่มีการคาดการณ์จากสำนักวิชาการและจัดการโทรคมนาคม ว่าแนวโน้มในอนาคตมีโอกาสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในบริการชนิดนี้มีผู้ให้บริการรายใหญ่อยู่ 4 ราย ได้แก่ บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TRUE) , บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (3BB) , บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AIS) ซึ่งผลงานในส่วนนี้ของ AIS นั้นต้องยอมรับว่าทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ที่ 1,668,900 ราย คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 13.09 %  อยู่ในลำดับที่ 4 ของตลาด ส่วนอันดับที่ 1 และที่ 2 นั้นเป็นของ TRUE และ 3BB ที่มีผู้ใช้งานอยู่ที่ 4,537,000 ราย และ 3,610,000 ราย คิดเป็น 35.57% และ 28.30% ตามลำดับ 

 

จะเห็นได้ว่าบริการอินเตอร์เน็ตบ้านของ 3BB นั้นถือว่าทำได้ดีกว่า AIS อยู่ค่อนข้างมาก เป็นจุดขายสำคัญของผู้ให้บริการ 3BB เลยก็ว่าได้ และด้วยโอกาสการเติบโตของอินเตอร์เน็ตบ้านในอนาคตที่มีค่อนข้างสูง นี้จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ AIS เลือกตัดสินใจเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ซึ่งหาก AIS ซื้อกิจการของ 3BB ได้ จะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของทั้งคู่รวมกันเป็น 41.39% ของผู้ใช้งานทั้งหมด ขึ้นเป็นอันดับ 1 ครอบครองส่วนแบ่งการตลาดของอินเตอร์เน็ตบ้านได้สำเร็จ 

 

ประเด็นที่น่าจับตามองต่อไป

ประเด็นที่น่าจับตามองต่อไปคงจะหนีไม่พ้นเรื่องของสภาวะการแข่งขันของตลาดโทรคมนาคมในบ้านเรา ก่อนหน้านี้มีข่าวการควบรวมกิจการของ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง TRUE ที่ประกาศควบรวมกิจการกับ DTAC ตอนนี้ AIS ก็ประกาศซื้อกิจการของ 3BB เช่นกัน เหตุการณ์เหล่านี้จะทำให้ผู้เล่นในตลาดเหลือเพียง 2 เจ้าใหญ่ที่กินส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ในธุรกิจนี้ไปกว่า ส่งผลให้เกิดลักษณะของตลาดในรูปแบบที่นักเศรษฐศาสตร์เรียกว่า“ตลาดผู้ขายน้อยราย”ซึ่งผลกระทบอาจจะตกอยู่กับผู้ใช้งานที่จะต้องเจอกับราคาหรือบริการที่สูงได้ในอนาคต

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn