ในขณะที่สหราชอาณาจักรยังคงสำรวจวิธีการเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ธนาคารส่วนใหญ่ในภูมิภาคนี้จึงเปิดให้ลูกค้าสามารถโต้ตอบกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคารทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงลูกค้ากับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ตลาดการแลกเปลี่ยนคริปโต
ตอนนี้ มีธนาคารในสหราชอาณาจักรเพียง 47% เท่านั้นที่ไม่มีนโยบายที่อนุญาตให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับตลาดการแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี โดยส่วนใหญ่อ้างถึงปัญหาด้านความปลอดภัย งานวิจัยของ Finder.com ที่เผยแพร่โดย The Fintech Times เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมระบุ
แบบสำรวจนี้รวบรวมความคิดเห็นจากธนาคารรายใหญ่ 17 แห่งของสหราชอาณาจักร การสร้างสังคม และแอพด้านการธนาคาร ธนาคารที่ติดต่อเจ็ดแห่งไม่อนุญาตให้โอนหรือซื้อบัตรเดบิต/บัตรเครดิตที่เกี่ยวข้องกับตลาดการแลกเปลี่ยนคริปโต ธนาคารบางแห่งในรายการนี้ ได้แก่ Halifax, HSBC, The Co-operative Bank และ TSB
ธนาคารที่เป็นมิตรกับคริปโต
การสำรวจสรุปว่ามีเพียง 4 ธนาคารเท่านั้นที่สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นมิตรกับคริปโต หมวดหมู่นี้ประกอบด้วยธนาคารหรือแอปธนาคารดิจิทัลเท่านั้น รวมถึง Starling, Monzo และ Revolut
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แพลตฟอร์มอนุญาตให้โอนและถอนออกจากตลาดการแลกเปลี่ยนคริปโตนอกจาก Binance ซึ่งถูกห้ามในประเทศ
จากการวิจัยพบว่าธนาคารที่เป็นมิตรกับคริปโตนั้นแทบไม่มีข้อ จำกัด ในการโต้ตอบกับลูกค้ากับตลาดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูกค้าสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลโดยใช้บัตรเดบิต ชำระเงินเพื่อแลกเปลี่ยน ถอนเงินจากกระเป๋าเงินดิจิทัล และฝากเข้าบัญชีกระแสรายวัน
นอกจากนี้ ธนาคารเช่น Barclays, Lloyds Bank, Bank of Scotland, NatWest และ RBS มีแนวทางแบบผสมผสานกับนโยบายต่างๆ ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถโต้ตอบกับ cryptocurrencies โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขามีข้อจำกัด เช่น การปิดกั้นการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเลือกตลาดการแลกเปลี่ยน
“จากการวิจัยพบว่าธนาคารให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของลูกค้าอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะมีพื้นที่สำหรับปรับปรุงการสื่อสารนโยบายของพวกเขาอย่างแน่นอน Cryptocurrency จะไม่หายไป ดังนั้นการสื่อสารที่ไม่เป็นระเบียบนี้จึงเป็นสิ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไขไม่ช้าก็เร็ว” Kate Anderson จาก Finder.com กล่าว
กฎระเบียบคริปโตของสหราชอาณาจักร
ผลการสำรวจมาถึงจุดที่สหราชอาณาจักรกำลังผลักดันให้สร้างกรอบการกำกับดูแลคริปโตโดยตั้งใจจะทำให้ภูมิภาคนี้เป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้นท่ามกลางช่องทางหลัก ๆ ในการมีส่วนร่วมในคริปโต โดยประเทศนี้มีนักลงทุนจำนวนมาก
ตัวอย่างเช่น ตามที่รายงานโดย Finbold เมื่อวันที่ 23 กันยายน พลเมืองอังกฤษใช้เงินไปมากกว่า 31.795 พันล้านปอนด์ (34.7 พันล้านดอลลาร์) เพื่อลงทุนใน cryptocurrencies
ที่มา : finbold