นักลงทุน Cryptocurrency ระดมเงินมากถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในโทเค็นคริปโตที่สงสัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ “pump and dump” ในปี 2022
รายงานเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์จากบริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Chainalysis “วิเคราะห์โทเค็นทั้งหมดที่เปิดตัว” ในปี 2022 บนบล็อกเชน BNB และ Ethereum และพบลักษณะเฉพาะมากกว่า 9,900 รูปแบบของโครงการ “pump and dump”
โดยทั่วไปแล้ว โครงการปั๊มและถ่ายโอนข้อมูลจะเกี่ยวข้องกับผู้สร้างที่จัดทำแคมเปญข้อความที่ทำให้เข้าใจผิด โฆษณาเกินจริง และความกลัวที่จะพลาด (FOMO) เพื่อโน้มน้าวให้ นักลงทุน ซื้อโทเค็นในขณะที่แอบขายหุ้นในโครงการในราคาที่สูงเกินจริง
Chainalysis ประเมินว่านักลงทุนใช้เงินมูลค่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ในการเข้ารหัสเพื่อซื้อโทเค็นการฉ้อโกงที่สงสัยว่าแตกต่างกันเกือบ 9,900 รายการที่ระบุ
Chainalysis ผู้สร้าง pump and dump ที่อ้างว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งไม่ได้รับการเปิดเผยชื่อ ถูกสงสัยว่าเป็นผู้เปิดตัวโทเค็นดังกล่าวเพียงลำพัง 264 รายการในปีที่แล้ว โดยบริษัทอธิบายว่า:
“ทีมที่เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่และโทเค็นไม่สามารถเปิดเผยตัวตนได้ ซึ่งทำให้ผู้กระทำความผิดต่อเนื่องสามารถดำเนินแผนการ pump and dump ได้หลายครั้ง”
Chainalysis จัดประเภทโทเค็นว่า “ควรค่าแก่การวิเคราะห์” เป็น “pump and dump” ที่มีศักยภาพหากมีการแลกเปลี่ยนขั้นต่ำ 10 ครั้งและการซื้อขายแบบย้อนกลับสี่วันในการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ในสัปดาห์หลังจากเปิดตัว จาก 1.1 ล้านโทเค็นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว มีเพียง 40,500 รายการเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์
หากโทเค็นจากกลุ่มนี้เห็นราคาลดลงในสัปดาห์แรกที่ 90% หรือมากกว่านั้น Chainalysis ถือว่าเป็นไปได้ว่าโทเค็นนั้นเป็น “pump and dump” บริษัทพบว่า 24% ของโทเค็น 40,500 รายการที่วิเคราะห์นั้นเหมาะสมกับเกณฑ์รอง
Chainalysis ประมาณการว่ามีบุคคลหรือกลุ่มเพียง 445 รายเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลังโทเค็น pump-and-dump ที่น่าสงสัย แนะนำว่าผู้สร้างมักจะเปิดตัวหลายโครงการ และทำกำไรรวม 30 ล้านดอลลาร์จากการขายการถือครองของพวกเขา
“แน่นอนว่าเป็นไปได้ว่าในบางกรณี ทีมที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัวโทเค็นได้พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อสร้างข้อเสนอที่ดี และการลดลงของราคาที่ตามมาเป็นเพราะกลไกของตลาด” บริษัทกล่าวเสริม
แม้จะมีสถิติที่เกี่ยวข้อง แต่ในรายงานแยกต่างหาก บริษัทระบุว่ารายได้จากการหลอกลวงคริปโตลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในปี 2022 สาเหตุหลักมาจากราคาคริปโต ที่ตกต่ำ
ที่มา : cointelegraph