สงครามศูนย์ซื้อขายเริ่มแล้ว! InnovestX – Bitkub ใครได้เปรียบใคร

 

เป็นกระแสมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วชนิดที่ว่าไม่มีเวลาให้ประชาชนได้พักหายใจกันเลยสำหรับบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) ตั้งแต่การประการยกเลิกดีลซื้อกิจการของ Bitkub มูลค่ากว่า 17,850 ล้านบาท ข่าวการได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ทั้งประเภทคริปโตเคอเรนซี่ และโทเคนดิจิทัล จากทางก.ล.ต. ​ การเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิมที่ใช้ชื่อว่าบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปลี่ยนมา บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) รวมถึงข่าวการลงโทษผู้บริหารของ Bitkub เอง ที่กระทำความผิดใช้ข้อมูลภายในองกรค์ในการทำกำไรจากการซื้อขายเหรียญ KUB 

ล่าสุดกับการประกาศผ่านหน้าเว็บไซต์ของตัวเอง ถึงการมาของแอปพริเคชันเพื่อการลงทุนใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกสู่สาธารณะในเร็ว ๆ นี้ หลายฝ่ายต่างคาดการณ์กันว่าจะเป็นการมาของแอปพริเคชันกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ที่ทาง InnovestX มีแผนที่จะทำในก่อนหน้านี้

การมาของ InnovestX ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลใหม่ของไทย

ยังไม่ทันเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการก็เป็นที่จับตาของนักลงทุนทั่วประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ InnovestX ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ยังไม่มีแถลงการณ์ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีการคาดการณ์กันก่อนแล้วว่า การมาของแอปพริเคชันเพื่อการลงทุนตัวใหม่ของ InnovestX นี้ จะเป็นกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล สาเหตุเนื่องจากใบอนุญาตประกอบกิจการ ทาง InnovestX ก็ได้มาแล้ว ดีลซื้อกิจการ Bitkub ก็ยกเลิกไปแล้ว ประกอบกับทิศทางของบริษัทที่ดูจะสนใจด้านเทคโนโลยีและโลกการเงินสมัยใหม่อยู่พอสมควร ทำให้เชื่อได้ว่า ศูนย์ซื้อขายของ InnovestX จะต้องออกมาในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน 

โดยในช่วงแรกที่เปิดให้บริการนี้ สำนักข่าวหลายสำนักรายงานว่าจะมีเหรียญหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วเปิดให้บริการ อย่างเช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Axie Infinity(AXS), The Sandbox, USD Coin (USDC) ฯลฯ รวมแล้วกว่า 15 – 25 เหรียญ และเหรียญอื่น ๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต

InnovestX – Bitkub ใครได้เปรียบใคร

การมาของ InnovestX ในครั้งนี้ ค่อนข้างน่าสนใจและน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้ตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในบ้านเราปรับเปลี่ยนไปมากน้อยขนาดไหน เพราะเมื่อมองดูภาพรวมของตลาดในตอนนี้ที่มีผู้ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายจากทาง ก.ล.ต. อยู่ทั้งสิ้น 8 ราย (ไม่รวม InnovestX) จะพบว่ากระดานเทรด Bitkub กินส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมดไปกว่า 90% และผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ส่วนใหญ่ยังคงขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจอยู่ มีเพียง Bitkub และ Zipmex เท่านั้นที่มีกำไรในตอนนี้ ซึ่งเมื่อเทียบกำไรของทั้งสองบริษัทในปี 2564 ที่ผ่านมาจะพบว่า กำไรของ Bitkub อยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ส่วนของ Zipmex นั้นอยู่ที่ 9 ล้านบาท ซึ่งต่างกันพอสมควร 

ดังนั้น InnovestX ที่กำลังจะเข้ามาสู้ในตลาดนี้จึงถูกมองเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสำหรับศูนย์ซื้อขาย Bitkub เลยทีเดียว หากเราลองวิเคราะห์เปรียบเทียบเพื่อดูจุดเด่นและหาข้อได้เปรียบ เสียเปรียบของทั้ง 2 บริษัท คงจะพอสรุปได้ดังนี้

จุดได้เปรียบของ InnovestX 

  • ประสบการณ์ เครือข่าย และผู้สนับสนุน

อย่างที่เราทราบกันดีว่า บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ มีบริษัทแม่เป็นธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารรายใหญ่ลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่ประกอบธุรกิจมายาวนานมากกว่า 100 ปี มีทั้งประสบการณ์การทำธุรกิจ และเครือข่ายพันธมิตรน้อยใหญ่ที่สะสมกันมาอย่างยาวนานจากการดำเนินงานที่ผ่าน ๆ มา ดังนั้นเมื่อเทียบกับ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่เพิ่งเปิดกิจการมายังไม่ถึง 10 ปี ความต่างตรงส่วนนี้น่าจะพอมีผลอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

  • ฐานลูกค้าเดิม

จากการทำธุรกิจมายาวนาน ทำให้ตัวบริษัทเป็นที่รู้จักคุ้นเคยของประชาชนและมีฐานลูกค้าเดิมอยู่ในมือ มีฐานข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน สามารถนำมาใช้วิเคราะห์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ ทางด้านฝั่งของผู้ใช้บริการเองก็สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพราะทางบริษัทมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว อาจจะช่วยตัดปัญหาด้านการยืนยันตัวตนที่ใช้เวลานานที่ใครหลายคนพบเจอได้ในทันที

  • เม็ดเงินลงทุนมหาศาล

แม้ว่าในตัวบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จะมีมูลค่าสินทรัพย์รวมในปี 2564 อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งต่างจากของ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ที่มีสินทรัพย์รวมในปี 2564 เกือบ 9 หมื่นล้านบาท แต่หากทางฝั่งไทยพาณิชย์เข้ามาช่วยสนับสนุนและพลักดันตัวโปรเจกต์นี้ด้วยแล้ว จะทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน ๆ บาท

จุดเสียเปรียบของ InnovestX 

  • ไม่มีประสบการณ์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัล

แม้จะเป็นธุรกิจด้านการเงินเหมือนกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าระหว่างโลกการเงินแบบเก่าและโลกการเงินแบบใหม่นั้นค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร สกิลความรู้ความสามารถและวิธีบริหารจัดการที่เคยใช้กับโลกการเงินแบบเดิม อาจจะไม่สามารถนำมาใช่กับโลกการเงินแบบใหม่ได้ ยังจำเป็นพัฒนาและเรียนรู้ทักษะทางด้านการเงินใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถกระโดดข้ามมาทางฝั่งนี้ได้

  • ติดภาพลักษณ์เดิม

นอกจากการบริหารจัดการแล้ว สิ่งที่สื่อสารกับผู้ใช้บริการยังเป็นหัวใจสำคัญปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ผู้ใช้บริการหันมาเลือกใช้สินค้าและบริการของเรา การที่บริษัทซึ่งเคยประกอบธุรกิจการลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบเดิมมาเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ผู้ใช้บริการติดภาพการใช้งานรูปแบบนั้นไปแล้ว (แต่ในจุดนี้ก็ต้องขอชื่นชมว่าทาง InnovestX เริ่มที่จะปรับเปลี่ยนบุคคลิกและสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่ตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังจะเห็นได้จากการเปลี่ยนชื่อเป็นต้น)

  • ฐานลูกค้าคนละกลุ่ม

ลูกค้าเดิมที่เคยใช้บริการของ InnovestX อยู่แล้ว ใช่ว่าทุกคนจะสนใจและเข้ามาสู่โลกของสินทรัพย์ดิจิทัลกันทุกคน ยังคงมีกลุ่มคนที่ไม่เข้าใจและไม่อยากเข้ามายุ่งกับสินทรัพย์ดิจิทัลอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งสินทรัพย์ดิจิทัลเองก็เป็นสินทรัพย์ที่เสี่ยงและไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกคน ดังนั้นจึงไม่สามารถนำฐานลูกค้าเดิมมาใช้เป็นข้อได้เปรียบได้เสียทั้งหมด

จุดได้เปรียบของ Bitkub

  • มีประสบการณ์ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมาก่อน

หากไทยพาณิชย์เป็นธนาคารพาณิชย์แห่งแรก ๆ ของประเทศไทย Bitkub ก็เป็นผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรก ๆ ของประเทศไทยเช่นเดียวกัน จุดนี้เองจึงทำให้ Bitkub มีแต้มต่อ เนื่องจากมีประสบการณ์และผ่านไซเคิลต่าง ๆ ของตลาดคริปโตฯมาแล้วหลายรอบ

  • ภาพลักษณ์ที่ทันสมัย

ด้วยภาพลักษณ์ของบริษัทเอง ร่วมกับผู้ที่ผลักดันวงการคริปโตเคอเรนซี่ฯ เป็นคนแรก ๆ ของบ้านเราอย่างคุณ ท็อป จิรายุส ทำให้มีฐานแฟน ๆ ผู้ติดตามของแพลตฟอร์มอยู่แล้ว ยังไม่รวมถึงสโลแกน “คิดถึง Bitcoin คิดถึง Bitkub” ที่อาจจะทำให้คนไม่สามารถคิดถึงเจ้าอื่นได้ เมื่อคิดถึง Bitcoin

  • เป็นเจ้าตลาด ครองส่วนแบ่งเดิมอยู่แล้วมากกว่า 90%

จุดเสียเปรียบของ Bitkub

  • ประสบการณ์การทำธุรกิจที่ยังมีน้อย หากมอง Bitkub เป็นธุรกิจ ๆ หนึ่ง จะพบว่านี้เป็นธุรกิจใหม่ ที่เพิ่งเปิดกิจการมาได้ประมาณ 4 – 5 ปีเพียงเท่านั้น 
  • โดนตักเตือนจากทาง ก.ล.ต. อยู่บ่อยครั้ง เมื่อค้นหาข้อมูลย้อนหลังจากทางเว็บไซต์ของก.ล.ต. จะพบว่าบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด มีการกระทำความผิดและโดนเรียกปรับจากก.ล.ต. ไปแล้วมากกว่า 10 ครั้ง 

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เราได้รวบรวมมา ผู้อ่านทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างสามารถเข้ามาร่วมพูดคุยกับเราได้ผ่านสื่อต่าง ๆ ของเราทั้ง ช่องทางเว็บไซต์ longlongthun.com youtube facebook และ IG ของเราได้ทุกช่องทาง  สุดท้ายนี้หากเป็นไปตามที่เราคาดหมายกันจริง ๆ และทาง InnovestX เปิดตัวศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของตัวเองขึ้นมาจริง ๆ คาดว่าจะต้องทำให้ตลาดศูนย์ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลในบ้านเราคึกคักขึ้นเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn