1.แนวรับ-แนวต้าน
2.MA 12,26,50
3.Relative Strength Index (RSI)
4.ลักษณะแท่งเทียน
5.Pattern Graph
สัญญานเหล่านี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ อินดิเคเตอร์อื่นๆ ได้จะเยี่ยมมากๆ หรือถ้าใครที่มีคำถามพิมเข้ามาพูดคุยกันได้ครับ
1.แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ-แนวต้าน เป็นจุดทางจิตวิทยาที่มีคนคอยซื้อหรือคอยขายในโซนราคาดังรูป
แนวต้าน คือ จุดที่มีคนเทขายออกมาในช่วงราคานั้น สังเกตได้จากกราฟราคาจะวิ่งมาชนเส้นแนวต้านด้านบน และเคลื่อนตัวลงกลับไปหลายครั้ง
แนวรับ คือ จุดที่มีคนรอเข้าซื้อในช่วงราคานั้น สังเกตได้จากกราฟราคาจะวิ่งมาชนเส้นแนวรับด้านล่าง และเคลื่อนตัวขึ้นกลับไปหลายครั้ง
2.MA 12,26,50
MA12 คือ เส้นค่าเฉลี่ย 12 วัน เป็นเส้นแนวรับระยะ ที่จะเป็นแนวรับแรกที่เวลาคริปโทมีการปรับตัวลงมาจะมาเจอเส้นนี้ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งเส้นแนวรับและเส้นแนวต้าน
MA26 คือ เส้นค่าเฉลี่ย 26 วัน เป็นเส้นแนวรับระยะกลางที่ค่อนข้างสำคัญ ซึ่งสามารถ ใช้ควบคู่กับ MA12 เพื่อบ่งบอกเทรนด์ของตลาดได้ในภาพระยะกลาง คนส่วนใหญ่ใช้ดูใน TF Day
MA50 คือ เส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน เป็นเส้นที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาวใช้ในการตัดสินใจ โดยถ้าราคาหลุดต่ำกว่า เส้น MA50 อาจจะเป็นสัญญานของตลาดขาลง
*ข้อควรรู้ CDC Action Zone ใช้ MA12 กับ MA26 ในการแสดงผลสัญญานการเข้า-ออก*
3.Relative Strength Index (RSI)
RSI จะใช้ในการดูว่าเทรนที่เกิดขึ้นนั้นมีแรงมากน้อยขนาดไหน และมีสัญญการอ่อนแรงของเทรนด์แล้วหรือยัง
Bullish Divergence เป็นสัญญานของกราฟที่กำลังกลับตัวจาก ขาลงเป็นขาขึ้น ซึ่งราคาที่เกิดขึ้นจะสวนทางกันกับ RSI ดังรูป
Bearish Divergence เป็นสัญญานของกราฟที่กำลังกลับตัวจาก ขาขึ้นเป็นขาลง ซึ่งราคาที่เกิดขึ้นจะสวนทางกันกับ RSI ดังรูป
4.ลักษณะแท่งเทียน
Bullish Engulfing สัญญานของแท่งเทียน ที่บอกถึงการกลับตัวจาก ขาลงเป็นขาขึ้น โดยสังเกตจากการเกิดแท่งเทียนเขียวใหญ่กินแท่งเทียนแดงก่อนหน้าไปทั้งแท่ง
Bearish Engulfing สัญญานของแท่งเทียน ที่บอกถึงการกลับตัวจาก ขาขึ้นเป็นขาลง โดยสังเกตจากการเกิดแท่งเทียนแดงใหญ่กินแท่งเทียนเขียวก่อนหน้าไปทั้งแท่ง
5.Pattern Graph
ลักษณะของกราฟที่จะกลับตัวจาก ขาลงเป็นขาขึ้น สังเกตได้จากการที่กราฟลงมาทำขา 2 อัน และทำการเบรค high ก่อนหน้าไปได้
ลักษณะของกราฟที่จะกลับตัวจาก ขาขึ้นเป็นขาลง สังเกตได้จากการที่กราฟขึ้นมาทำขา 2 อัน และ
ทำการเบรค Low ก่อนหน้าลงมา