5 สิ่งที่จะเปลี่ยนไป หลัง The Merge เสร็จสิ้น

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับโปรเจกต์ Ethereum (ETH) ที่หลายคนติดตามและเฝ้ารอกันมาเนินนานอย่างโครงการ The merge กำลังใกล้จะกลายเป็นความจริงแล้ว

 

ใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงคริปโคฯ กันมาอย่างยาวนาน น่าจะเคยได้ยินข่าวของโปรเจกต์ Ethereum ที่ตั้งใจที่จะเปลี่ยนระบบฉันทามติ (Consensus) เดิมของบล็อกเชน (Blockchain) ตัวเอง จากเดิมที่เป็นระบบ PoW (Proo-of-Work) เปลี่ยนเป็นการใช้กลไกการทำฉันทามติแบบ PoS (Proof-of-Sterk) เนื่องจากตัวโปรเจกต์มองเห็นว่าเป้าหมายของตัวโปรเจกต์ Etherum ในอนาคต และประโยชน์ที่ระบบ PoS สามารถมอบให้ได้นั้นสอดคล้องกัน และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตัวโปรเจกต์เอง ผู้พัฒนาโปรแกรมที่ทำงานอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน และผู้ครอบครองเหรียญ ETH ด้วย 

 

ซึ่งแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญขนาดนี้จะต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โปรเกจต์ Ethereum อย่างแน่นอน ส่วนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง และอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง ในบทความชิ้นนี้จะชวนผู้อ่านมาสำรวจกัน

 

5 สิ่งที่จะเปลี่ยนไป หลังการมาของ The Merge

 

1.ระบบฉันทามติเปลี่ยนจากระบบ PoW (Proof of Work) เป็น PoS(Proof of Stake)

เป็นข้อเปลี่ยนแปลงหลักที่ผู้พัฒนาของ Ethereum ต้องการให้เกิดขึ้นในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อต้องการนำข้อดีของระบบ PoS ที่ผู้พัฒนาคิดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและเข้ากับเป้าหมายของโปรเจกต์ Ethereum ในอนาคต และยังเป็นการปิดจุดอ่อนที่เคยเจอมาจากการใช้งาน PoW ด้วย 

 

2.หมดปัญหาการใช้พลังงานที่สูงของระบบ PoW 

เนื่องจากการทำงานของระบบ PoW นั้นจำเป็นต้องใช้พลังงานคอมพิวเตอร์ผู้ตวรจสอบการทำธุรกรรมเพื่อช่วยประมวลผลและยืนยันความปลอดภัยให้แก่เครือข่าย หรือที่เรามักเรียกว่า “การขุด” (Mining) ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้ระบบ PoS ในครั้งนี้จะเป็นการยกเลิกกระบวนการนี้ออกไป จึงสามารถช่วยลดการใช้พลังงานในส่วนนี้ได้กว่า 99.95% 

 

3.ขยายขนาดเครือข่าย (Scalability) ได้แล้ว

ปัญหาการขยายขนาดเครือข่ายที่ทำได้ยากบนระบบของ PoW เป็นปัญหาที่แก้ได้ยาก และทุกโปรเจกต์ที่ใช้ระบบฉันทามติ PoW ต้องเจอ แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นระบบ PoS แล้ว การขยายขนาดเครือข่ายจะสามารถทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น รองรับการทำธุรกรรมที่มากและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

4.นักขุด(Miner) จะไม่สามารถขุดเหรียญ ETH ได้อีกต่อไป

เนื่องจากระบบ PoS ใช้การยืนธุรกรรมไม่เหมือนกันกับระบบ PoW กล่าวคือไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานจากเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการถอดสมการทางคณิตศาสตร์เพื่อช่วยยืนยันธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยให้แก่ระบบอีกแล้ว แต่ระบบ PoS จะเปลี่ยนมาเป็นการ Stake หรือการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ระบบ ผ่านการวางสินทรัพย์ค้ำประกันแทน

 

5.เหรียญ ETH อาจเข้าสู่สภาวะเงินฝืด

เกิดเกิดขึ้นของเหรียญ ETH ใหม่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากระบบ PoW นั้นให้ผลตอบแทนแก่นัดขุดประมาณ 13,000 ETH/วัน แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นระบบ PoS รางวัลจากการ Staking จะเหลือเพียงแค่ 1,500 ETH/วัน ซึ่งลดน้อยลงกว่าเดิมมาก จึงคาดการณ์กันว่าเหรียญ ETH อาจเข้าสู่ภาวะเงินฝืด (Deflation) ในอนาคตได้ 

 

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครั้งหนึ่งสำหรับโปรเจกต์ Ethereum ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การเปลี่ยนแปลงกลไกฉันทามติที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันธุรกรรมและความปลอดภัยของเครือข่าย และยังไม่ใช่การขยายขีดความสามารถในการทำธุรกรรม (Sharding) แต่ก็น่าสนใจว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อโปรเจกต์ Ethereum และราคาของเหรียญ ETH บ้าง จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างที่คาดหวังไว้ได้จริงหรือไม่ คงเป็นเรื่องที่นักลงทุนและผู้ที่สนใจในแวดวงคริปโตเคอเรนซี่อย่างพวกเราต้องติดตามกันต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn