AAX บริษัทตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตในฮ่องกง ได้ย้ำว่าการระงับการถอนเงินบนแพลตฟอร์มไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากการล่มสลายของ FTX และข่าวลือที่ตรงกันข้ามนั้นเป็นเท็จ
ชุมชนคริปโตรายงานว่าเห็นข้อความ “แจ้งเตือนการอัปเกรดระบบ” เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ซึ่งกล่าวว่าการอัปเกรดระบบ “ใช้เวลานานกว่าปกติ” ซึ่งจะทำให้การถอนเงินล่าช้า บางคนแบ่งปันความกังวลว่าตลาดการแลกเปลี่ยนเป็นโดมิโนตัวต่อไปที่จะตกหลังจาก FTX และ BlockFi หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ในโพสต์เมื่อวันที่ 13 พ.ย. AAX ย้ำว่าการหยุดให้บริการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดในการอัปเกรดระบบ
ตลาดการแลกเปลี่ยนกล่าวว่าเป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมผู้ใช้อาจตื่นตระหนกกับการหยุดการถอนตัวในวันที่ 13 พฤศจิกายน
“ในแง่ของการล้มละลายของผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในอุตสาหกรรมของเราเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้ใช้คริปโตมีความกังวลอย่างถูกต้องเกี่ยวกับความมั่นคงในการดำเนินงานและการเงินของตลาดการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบรวมอำนา่จ”
ตลาดการแลกเปลี่ยนคริปโตซึ่งเข้าใจกันว่ามีผู้ใช้ 2 ล้านคนทั่วโลก อธิบายว่าการอัปเกรดระบบตามกำหนดการเป็นผลมาจาก “ความล้มเหลวของพันธมิตรบุคคลที่สามของเรา” ซึ่งทำให้ยอดคงเหลือของผู้ใช้บางคน “ถูกบันทึกอย่างผิดปกติในระบบของเรา ”
ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมีการจำกัดบริการเพื่อป้องกันความเสี่ยงเพิ่มเติม รวมถึงการระงับการถอนเงิน 7 ถึง 10 วัน “เพื่อหลีกเลี่ยงการฉ้อโกงและการแสวงประโยชน์”
ความกลัวว่าจะแพร่ระบาดจากการล่มสลายของ FTX ได้จุดประกายให้หลายคนในชุมชนคริปโตแนะนำให้คนอื่นดึงเงินของพวกเขาจากตลาดการแลกเปลี่ยนแบบรวมอำนาจและเข้าสู่โซลูชันการดูแลตนเอง
Ben Caselin รองประธานAAX รับทราบเมื่อวันที่ 13 พ.ย. Twitter โพสต์ช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมของการอัพเกรด แต่กล่าวว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดการกับ “ช่องโหว่ที่ร้ายแรง”
Caselin ยังชี้ให้เห็นว่างานนี้ “ไม่ง่ายในขณะที่ตลาดกำลังหวาดกลัว”
“ด้วยสถานการณ์ที่น่ากลัวอยู่แล้วในอุตสาหกรรม การเปิดร้านจะต้องใช้ความระมัดระวังและจะค่อยเป็นค่อยไปเมื่ออารมณ์เย็นลง”
ในโพสต์ Twitter เมื่อวันที่ 11 พ.ย. AAXกล่าวว่าพวกเขา “ไม่มีความเสี่ยงทางการเงินต่อ FTX และ บริษัท ในเครือ”
“ที่สำคัญกว่านั้น สินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดบนAAX ยังคงไม่บุบสลายด้วยจำนวนเงินจำนวนมากที่เก็บไว้ใน cold wallets และเงินทุนของผู้ใช้จะไม่เสี่ยงต่อความเสี่ยงของคู่สัญญาจากกิจกรรมทางการเงินหรือการร่วมลงทุนใด ๆ” กล่าวเสริม
ที่มา : cointelegraph