Binance ตลาดการแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้รับมือกับกระแส FUD (ความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย) นับตั้งแต่การล่มสลายของ FTX บริษัท กำลังต่อสู้กลับด้วยโพสต์บล็อกล่าสุด
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม Binance ได้เผยแพร่บล็อกโพสต์เป็นภาษาจีนเพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญ 7 ประการที่บริษัทต้องการจะแก้ไข ในขณะที่เขียนไม่มีเวอร์ชันภาษาอังกฤษให้บริการ
ประเด็นแรกคือการระงับการถอนเงิน USDC ชั่วคราวเมื่อต้นเดือนนี้ อธิบายว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาการแปลง “token swap” โดยตลาดการแลกเปลี่ยนจะรวมทุนสำรอง Stablecoin ไว้ใน BUSD
สิ่งต่อไปที่กล่าวถึงคือความพร้อมของเงินสำรองที่เพียงพอสำหรับการถอน ยืนยันว่า “สินทรัพย์ของผู้ใช้ทั้งหมดในBinance ได้รับการสนับสนุน 1:1” และสถานะทางการเงินนั้นแข็งแกร่งมาก เนื่องจากทำกำไรได้มากจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม CryptoQuant ได้ตรวจสอบปริมาณสำรองของ Binance โดยรายงานว่าไม่มีพฤติกรรมที่ “คล้าย FTX”
“Binanceจะไม่ยักยอกเงินของผู้ใช้สำหรับธุรกรรมหรือการลงทุนใด ๆ และไม่มีหนี้สินใด ๆ และไม่อยู่ในรายชื่อเจ้าหนี้ของบริษัทใด ๆ ที่เพิ่งล้มละลาย”
เกี่ยวกับ Mazars และบริษัทตรวจสอบบัญชี “big four” ที่ปฏิเสธที่จะทำงานกับบริษัทคริปโต กล่าวว่าการตรวจสอบบนเชนที่คริปโตเป็นฟิลด์ใหม่ที่บริษัทเหล่านี้อาจไม่มีความสามารถในการดำเนินการ
โดยสังเกตว่าการตรวจสอบเหล่านี้มักมุ่งเป้าไปที่สถานการณ์ทางการเงินของบริษัทจดทะเบียน ไม่ใช่การตรวจสอบสินทรัพย์สำรอง
Mazars ได้ลบรายงานการตรวจสอบBinance ออกจากเว็บไซต์แล้วBinance ยังระบุด้วยว่าไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินเนื่องจากเป็นบริษัทเอกชน ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียน
“ในเขตอำนาจศาลหลายแห่งที่เราดำเนินการ เราได้แบ่งปันหรือกำลังแบ่งปันข้อมูลการดำเนินงานและการเงินตามที่หน่วยงานกำกับดูแลท้องถิ่นกำหนด”
เกี่ยวกับรายงานของ Reuters ที่อ้างว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังสืบสวนบริษัทBinance ระบุว่าสื่อกระแสหลักได้กำหนดเป้าหมายบริษัทด้วยการรายงานที่ไม่ดีมาระยะหนึ่งแล้ว เสริมว่ามีใบอนุญาตปฏิบัติตามข้อกำหนดมากที่สุดในโลกและใช้เวลาต่อสู้กับอาชญากรคริปโตมากที่สุด
สุดท้าย โพสต์บล็อกย้ำความคิดเห็นของ CEO Changpeng Zhao ว่าBinance ไม่ได้ทำลาย FTX แต่ทำอย่างนั้นเอง Binanceไม่ถือว่าตลาดการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ เป็นคู่แข่ง ก่อนที่จะกล่าวเสริมว่า “เราให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและขยายการยอมรับในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง”
ดังนั้น FUD ได้รับการปฏิเสธ แต่นั่นไม่ได้ป้องกันการอพยพออกจากตลาดการแลกเปลี่ยนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนย้ายไปดูแลสินทรัพย์คริปโตด้วยตนเอง
ที่มา : cointelegraph