Mantle Core ของ BitDAO เสนอเงิน 200 ล้านดอลลาร์สำหรับกองทุน Web3

Mantle Core ของ BitDAO เสนอเงิน 200 ล้านดอลลาร์สำหรับกองทุน Web3

 

Mantle Core เสนอที่ต้องการสร้างกองทุนมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สำหรับการเริ่มต้นใช้งาน Web3 ในระยะเริ่มต้นนั้นถูกยื่นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ในฟอรัมการกำกับดูแลของ BitDAO กองทุนระบบนิเวศมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการยอมรับเครือข่ายของ Mantle ในหมู่นักพัฒนาและ Dapps

โดย Mantle Core เป็นเครือข่าย Ethereum layer-2 ที่พัฒนาโดยระบบนิเวศ BitDAO ตามข้อเสนอ เงินทุนรวม 200 ล้านดอลลาร์จะถูกนำไปใช้ภายในระบบนิเวศของ Mantle ในอีก 3 ปีข้างหน้า คลังของ BitDAO จะให้เงิน 100 ล้านดอลลาร์ในสกุลเงิน USD ในขณะที่อีก 100 ล้านดอลลาร์จะจัดหาโดยเงินทุนภายนอกที่ตรงกันจาก “หุ้นส่วนร่วมทุนเชิงกลยุทธ์”

กองทุนที่แสดงความสนใจเข้าร่วม ได้แก่ Dragonfly Capital, Pantera, Folius Ventures, Play Ventures Future Fund, Spartan, Lemniscap, Selini Capital, Cadenza Ventures และ QCP Capital ตามข้อเสนอของMantle

หากได้รับการอนุมัติMantle EcoFund และผู้ร่วมทุนจะเข้าร่วมในโครงการด้วยอัตราส่วนการลงทุนร่วม 1:1 การเริ่มต้นของ Web3 ที่เพิ่มรอบ pre-seed, seed และ series A จะถูกกำหนดเป้าหมายโดยกองทุนระบบนิเวศ

กองทุนได้รับการเสนอให้มีระยะเวลาการลงทุนที่ใช้งานอยู่ 3 ปี บวกกับการขยายเวลาเพิ่มเติมอีก 2 ปี โฆษกของMantle กล่าวกับ Cointelegraph ทางอีเมล ผู้ดำเนินการกองทุนเริ่มต้นได้รับการเสนอให้เป็น Mirana Ventures ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนของ Bybit และ BitDAO โดยมีคณะกรรมการการลงทุนประกอบด้วยตัวแทนจาก Mirana Ventures, Bybit, BitDAO และ Mantle

“กองทุนมีเป้าหมายที่จะลงทุนในโครงการมากกว่า 100 โครงการที่ติดตั้งบนMantle และมีทวีคูณของเงินลงทุน (MOIC) ที่ 1.5 เท่าของผลงานสะสมตลอดวงจรชีวิตของกองทุน” โฆษกของMantle กล่าว

ค่าธรรมเนียมการจัดการจะเป็น “มาตรฐานอุตสาหกรรม” โดยมีค่าธรรมเนียม 2% เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของทีม EcoFund รวมถึงการจัดหา การตรวจสอบสถานะทางกฎหมาย การสนับสนุนพอร์ตโฟลิโอ และการบริหารกองทุน

ทั่วทั้งอุตสาหกรรมคริปโตความคิดริเริ่มที่คล้ายกันมีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันการยอมรับและนวัตกรรม เมื่อปีที่แล้ว Polygon โซลูชันการปรับขนาด Ethereum ได้เปิดตัวกองทุนมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ที่มุ่งปรับปรุงการเข้าถึงการเงินแบบกระจายอำนาจ การเข้าถึงผู้ใช้ และเร่งการยอมรับ

ที่มา : cointelegraph

#ลองลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn