Binance CEO อย่าง Changpeng Zhao “CZ” ได้แบ่งปันประสบการณ์ของเขาใน “บทเรียนสำคัญสองประการ” ที่จะเรียนรู้จากตำนาน FTX โดยกล่าวว่าบริษัทคริปโตเคอเรนซีไม่ควรใช้โทเค็นของตนเองเป็นหลักประกัน และควรเก็บ “เงินสำรองจำนวนมาก”
ในทวีตเมื่อวันที่ 8 พ.ย. CZ ได้เปิดเผยการเรียนรู้สองครั้งหลังจาก “วิกฤตสภาพคล่อง” ที่สำคัญที่ FTX ซึ่งส่งผลให้ Binance ได้รับหนังสือแสดงเจตจำนงที่ไม่มีผลผูกพันในตลาดการแลกเปลี่ยน
Two big lessons:
— CZ 🔶 Binance (@cz_binance) November 8, 2022
1: Never use a token you created as collateral.
2: Don’t borrow if you run a crypto business. Don't use capital "efficiently". Have a large reserve.
Binance has never used BNB for collateral, and we have never taken on debt.
Stay #SAFU.🙏
CZ เล่าว่าบทเรียนแรกของเขาคือการทำให้แน่ใจว่าหลักประกันของบริษัทไม่ควรประกอบด้วยโทเค็นที่สร้างขึ้น และอ้างว่าโทเค็นในตลาดการแลกเปลี่ยนของเขาBinance Coin ไม่เคยถูกใช้เป็นหลักประกันสำหรับบริการของตน
ปัญหาสภาพคล่องของ FTX ดูเหมือนจะเกิดขึ้นหลังจากทวีตเมื่อวันที่ 6 พ.ย. จาก CZ ว่าBinance จะเลิกกิจการการถือครองโทเค็น FTX ตาม “การเปิดเผยล่าสุด” ที่เกี่ยวข้องกับรายงานความสัมพันธ์ระหว่าง FTX และบริษัทการค้า Alameda Research ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีการถือครอง FTT อย่างมีนัยสำคัญ
ในขณะที่Binance ไม่ได้เปิดเผยหลักฐานของเงินสำรองที่ใช้เป็นหลักประกัน CZ กล่าวในทวีตเมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่าในความพยายามที่จะโปร่งใสอย่างเต็มที่Binance จะให้หลักฐานการสำรองในไม่ช้า
บทเรียนที่สองของ CZ จากการล่มสลายของ FTX คือธุรกิจคริปโต ไม่ควรยืม และควรเลือกที่จะรักษาทุนสำรองจำนวนมาก ซึ่งอาจอ้างอิงถึงผู้ใช้ FTX ที่บ่นเรื่องการถอนเงินที่ช้าในวันที่ 7 พฤศจิกายน ทำให้เกิดข่าวลือว่าตลาดการแลกเปลี่ยนไม่ได้เกิดขึ้น มีเพียงพอที่จะครอบคลุมเงินทุนของผู้ใช้
ทวีตของ CZ ที่ยืนยันว่าการชำระบัญชี FTT ของ Binance จบลงด้วยเหตุที่บางคนเรียกว่า “bank-run” ในตลาดการแลกเปลี่ยน โดยข้อมูลของแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ CryptoQuant เปิดเผยว่ายอดคงเหลือ Bitcoin ของ FTX ลดลง 19,956 เมื่อวันที่ 7 พ.ย. เพียงอย่างเดียว
ในขณะที่เขียน FTT ลดลง 75% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยราคาสุดท้ายอยู่ที่ 5.70 ดอลลาร์ ณ เวลาที่เขียน เทียบกับราคาเปิดที่ 22.14 ดอลลาร์
ที่มา : cointelegraph