China’s Communist Party Congress ครั้งที่ 20 การประชุมใหญ่จีนที่ 5 ปีมีครั้ง

"China's Communist Party Congress ครั้งที่ 20" จับตาการประชุมใหญ่ของจีน

เริ่มขึ้นแล้วสำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ครั้งที่ 20 (China’s Communist Party Congress)ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ตามกำหนดการจะถูกจัดขึ้นเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์เต็ม ตั้งแต่วันที่ 16 – 22 ตุลาคม ถือเป็นการประชุมใหญ่ของจีนที่จะถูกจัดขึ้นทุก ๆ 5 ปี เพื่อหารือทิศทางการพัฒนาของจีน นโยบายต่าง ๆ การสรรหาสมาชิกการเมือง-คณะกรรมการชุดใหม่ รวมถึงเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือเพิ่มเติมในการประชุมแต่ละครั้ง

 

China’s Communist Party Congress การประชุมนี้สำคัญอย่างไร

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ ถือเป็นการประชุมใหญ่ที่จะถูกจัดขึ้นในทุก ๆ 5 ปี ของจีน โดยในปีนี้ถูกจัดขึ้นในวันที่ 16 – 22 ตุลาคม ณ มหาศาลาประชาชน (Great Hall of the People) เป็นการประชุมที่จะรวบรวมตัวแทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนกว่า 2,300 คน ที่ถือเป็นตัวแทนของสมาชิกพรรคอีกกว่า 96.7 ล้านคนจากทั่วประเทศ เพื่อร่วมหารือทิศทางการบริหารประเทศในอีก 5 ปี ข้างหน้า ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ และที่ขาดไม่ได้นั้นคือในแง่ทางการเมืองด้วยเช่นกัน

 

ภายในงานจะมีประชุมเพื่อสรรหาสมาชิกกรรมการเมือง (Politburo) และคณะกรรมการประจำกรรมการเมือง (Politburo standing committee) ใหม่ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งทางการเมืองที่สูงและมีความสำคัญต่อจีนในการกำหนดทิศทางต่าง ๆ ในอนาคตทั้งในทางเศรษกิจและการเมืองอีกอย่างน้อย 5 ปี ต่อจากนี้

 

โดยลำดับการเลือกนั้นจะถูกเลือกจากตัวแทนผู้มาเข้าร่วม 2,300 คน เพื่อเลือกหา 200 คน สำหรับตำแหน่งคณะกรรมการกลางของพรรค และอีก 170 คน สำหรับสมาชิกพรรคสำรอง หลังจากนั้นตัวแทนทั้ง 200 คนที่ถูกเลือกมาจะทำการเลือก 25 คน เพื่อขึ้นนั่งตำแหน่งสมาชิกกรรมการเมือง (Politburo) และสุดท้ายสมาชิกในจำนวนนี้จะถูกคัดเลือกให้ขึ้นนั่งตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรรมการเมือง (Politburo standing committee) อีกจำนวน 7 คน

 

ประเด็นที่น่าจับตามองในการประชุมครั้งนี้

  1. อนาคตของ สี จิ้นผิง กับการดำรงตำแหน่งทางการเมือง

แต่เดิมนั้นตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนมีระยะเวลาการอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 2 สมัย (10ปี) แต่หลังการแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับข้อจำกัดของวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนได้สำเร็จเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า สี จิ้นผิง มีโอกาสสูงที่จะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศต่อเป็นสมัยที่ 3 และอาจดำรงตำแหน่งนี้ไปตลอดชีวิต เช่นเดียวกับเหมาเจ๋อตุง บิดาผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน 

 

2. บุคคลใหม่ที่จะมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองของจีน

ตัวแทน 2,300 คน และ 200 คน ที่จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้มีความหมายต่อการกำหนดทิศทางการปกครองของจีนในอนาคตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรรมการเมือง (Politburo standing committee) ทั้ง 7 คน ที่จะต้องจับตาดูว่า จะเป็นตัวแทนจากฝ่ายตรงกันข้าม หรือเป็นกลุ่มที่สนับสนุนสี จิ้นผิง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่การบริหารประเทศในอนาคตอีก 5 ปี กันแน่

 

3. นโยบาย Zero Covid จะยังดำเนินต่อไปหรือไม่

Zero Covid เป็นหนึ่งในนโยบายของสี จิ้นผิง ที่ถูกประกาศใช้ในจีนช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิท-19 ที่ผ่านมา เป็นนโยบายการควบคุมโควิทที่มีความเข้มข้นมากที่สุดนโยบายหนึ่งของโลก เนื่องจากการล็อคดาวน์ (Lockdown) ปิดการจราจรเข้าออกของเมืองและไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกพื้นที่อาคาร และด้วยนโยบายนี้เอง จึงทำให้การแพร่ระบาดช่วงแรกผ่านพ้นมาได้ แต่ระยะหลังมานี้ จีนยังคงเดินหน้านโยบาย Zero Covid นี้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชนและเริ่มเกิดความไม่พอใจขึ้นกับประชาชนจำนวนมาก ในช่วงหลังนโยบายนี้จึงเริ่มถูกวิพากวิจารณ์และเริ่มถามถึงความเหมาะสมของการใช้นโยบายนี้เพิ่มมากขึ้น

 

4. ทิศทางในอนาคตและกรอบการพัฒนาของจีน

อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงที่ผ่านมาจีนต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งภายในและภายนอกที่เข้ามากระทบกระเทือนต่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสาธารณะสุขของประเทศ ทั้งปัญหาโรคระบาดโควิท-19 สงครามการค้าของตนเองกับสหรัฐฯ สงครามระหว่างประเทศพันธมิตรรัสเซียยูเครน และความขัดแย้งระหว่าง ไต้หวัน และฮ่องกง นโยบายการต่างที่จะออกมานี้ จึงเป็นตัวกำหนดท่าทีของจีนต่อความสัมพันธ์กับอีกหลาย ๆ ประเทศหล่านี้

 

ที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/20th_National_Congress_of_the_Chinese_Communist_Party
https://www.bbc.com/news/world-asia-62970531
https://thestandard.co/20th-national-congress-of-the-chinese-communist-party/
https://www.scmp.com/economy/china-economy/article/3196186/global-impact-its-here-20th-party-congress-set-begin-xi

 

บทความโดย ลองลงทุน 

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn