Dollar Milkshake Theory ทฤษฎีที่อธิบายเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้ดีที่สุด

บทวิเคราะห์และทฤษฎีมากมายถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างอิงเพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจและความเป็นไปของโลกในช่วงที่ความไม่แน่นอนมีค่อนข้างสูงอย่างในปัจจุบัน ทั้งสถานการณ์เงินเฟ้อที่เกิดขึ้นรอบโลก วิกฤตเศรษฐกิจของประเทศเปราะบาง หรือค่าเงินอ่อนที่สร้างผลกระทบให้แก่ความสามารถในการชำระหนี้ในหลายประเทศ 

 

มีทฤษฎีหนึ่งของ Brent Johnson ที่วิเคราะห์สาเหตของปัญหาเหล่านี้เอาไว้ได้อย่างแม่นจำ และตรงกับเหตุการณ์ปัจจุบันของโลกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ นั้นก็คือทฤษฎีที่ชื่อว่า “dollar milkshake theory” 

 

Dollar milkshake คืออะไร

ทฤษฎี dollar milkshake คือทฤษฎีที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกทฤษฎีหนึ่ง เจ้าของแนวคิดนี้ได้แก่ Brent Johnson ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่มีประสบการณ์อยู่ในตลาดมาแล้วกว่า 20 ปี ปัจจุบันดำลงตำแหน่ง CEO ของ Santiago Capital นายหน้าและผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน

 

ตัวเนื้อหาของทฤษฎีนั้นเล่าถึงสถานการณ์ระบบการเงินของโลก ซึ่งนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องดื่ม Milkshake เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพ โดยเปรียบเทียบฟองนมด้านบนเป็นสินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลก ส่วนตัวนมด้านล่างเปรียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ไหลเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ และเปรียบธนาคารกลางสหรัฐเป็นผู้ถือหลอดดูดแก้ว Milkshake ที่คอยเทเงินเข้าระบบ (QE) และดูดเงินออกจากระบบ (QT) อย่างที่ทำในปัจจุบัน  

 

โดยตัวทฤษฎีนี้ได้วิเคราะห์ถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่จะแข็งค่าขึ้นในอนาคต และจะเกิดเป็นปัญหาส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก

 

เริ่มต้นที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่จะแข็งค่าขึ้นเรื่อย ๆ จากความต้องการที่มากขึ้นเนื่องจากนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เข้มข้นกว่าประเทศอื่น ๆ ทำให้หนี้ส่วนใหญ่ของโลกที่อยู่ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และนักลงทุนต่าง ๆ หันมาให้ความสนใจค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้นเพื่อที่จะได้ลดความเสี่ยงของตัวเองลง ส่งผลต่อประเทศกลุ่มเศรษฐกิจเปราะบางและกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่จะได้รับผลกระทบจากมูลค่าหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินของประเทศที่อ่อนค่าลง ตัวอย่างเช่น ศรีลังกาที่กำลังเผชิญกับปัญหาค่าเงินอยู่ในขณะนี้เป็นต้น และแม้แต่ในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง สหราชอาณาจักร กลุ่มประเทศยูโรโซน หรือญุี่ปุ่นเองก็ยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินของประเทศต้นเองที่อ่อนค่าลงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ด้วยเช่นกัน      

 

Dollar milkshake และผลกระทบต่อตลาดคริปโตฯ

Bitcoin และเหรียญคริปโตฯ สกุลอื่น ๆ มักจะถูกนำมาจับคู่ราคากับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้ทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ที่ผกพันกัน หมายความว่าเมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น อาจทำให้มูลค่าเหรียญคริปโตฯลดน้อยลงได้ นักลงทุนหลายคนจึงเชื่อว่าโอกาสที่ราคาของบิทคอยน์จะกลับมามีมูลค่าสูงขึ้นได้นั้น ธนาคารกลางสหรัฐฯต้องหยุดนโยบายการปรับขึ้นอัตราดอกกเบี้ย และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯต้องอ่อนค่าลงเสียก่อน คริปโตฯจึงจะสามารถกลับมาได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn