เพิ่งจะเปลี่ยนชื่อบริษัทไปเมื่อวานนี้เองสำหรับ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) หรือในชื่อเดิมที่เราคุ้นหูกันดีอย่างกับ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ (SCBS) บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีเป้าหมายมุ่งมั่นสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาค และเตรียมความพร้อมเพื่อขยายธุรกิจการเงินการลงทุนสู่ตลาดอาเซียน
นับว่าเหมาะกับเป้าหมายและทิศทางของบริษัทจริง ๆ สำหรับ InnovestX เพราะล่าสุดมีข่าวเตรียมตัวที่จะเปิดแอปพริเคชันเพื่อการลงทุนเป็นของตัวเองแล้วหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) จากก.ล.ต. โดยทาง InnovestX นั้นสามารถเปิดให้บริการได้ทั้งคริปโตเคอเรนซี่และโทเคนดิจิทัล ซึ่งคาดว่าในช่วงแรกที่เริ่มเปิดให้บริการนี้จะมีเหรียญเปิดให้ซื้อขายประมาณ 15 – 25 เหรียญ ซึ่งจะมีเหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้างอยู่แล้วเช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Axie Infinity(AXS), The Sandbox, USD Coin (USDC) และเหรียญอื่น ๆ ที่อาจจะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต
ต้องมาเจอกับ Bitkub เจ้าตลาดศูนย์ซื้อขายเดิม ที่กินส่วนแบ่งการตลาดมากว่า 90%
บิทคับ ออนไลท์ ( Bitkub Online) เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดให้บริการวันแรกเมื่อ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เป็นระยะเวลากว่า 4 ปี แล้วที่เปิดให้บริการมา ตลอดระยะเวลา 4 ปีมานี้ไม่ใช่ว่าจะไร้ซึ่งคู่แข่งไปเสียทีเดียวสำหรับตลาดกระดานเทรดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะยังมีบริษัทอื่นอีก 7 บริษัท ที่ได้เราใบอนุญาติฯ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Zipmex , Satang Pro , Upbit ฯลฯ
แต่ตลอดระยะเวลา 4 ปีมานี้ไม่มีศูนย์ซื้อขายไหนเลยที่สามารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดและสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทตนเองได้ กระดานเทรด Bitkub นั้นกินส่วนแบ่งการตลาดไปมากกว่า 90% ของตลาดศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยทั้งหมด สร้างผลกำไรให้แก่บริษัท 102 ล้านบาทในปี 2563 และ 2,717 ล้านบาท ในปี 2564 เติบโตขึ้นกว่า 1000% ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งมีเพียง Bitkub และ Zipmex 2 ใน 8 บริษัทเท่านั้นที่สามารถสร้างกำไรจากธุรกิจนี้ได้
การมาของ InnovestX (SCBS) คู่แข่งที่ Bitkub ไม่เคยเจอ
ในวันนี้ที่ InnovestX (SCBS) ประกาศเตรียมเปิดตัวแอปฯเพื่อการลงทุนของตัวเอง เป็นการประกาศกระโดดเข้าสู้ในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งสั่นสะเทือนแวดวงการลงทุนและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลบ้านเราเป็นอย่างมาก เนื่องจาก InnovestX นั้นเป็นบริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นบริษัทใหญ่อันดับต้น ๆ ในประเทศไทย ทำให้มีต้นทุนทั้งทางด้านการเงิน ด้านการทำธุรกิจ ฐานลูกค้าและเครือข่ายผู้สนับสนุนต่าง ๆ ที่เหนือกว่า Bitkub อยู่มาก แม้ว่าทาง Bitkub เองจะมีข้อได้เปรียบเรื่อง Know how และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เจอมาก่อน จากการประกอบธุรกิจนี้มาแล้วกว่า 4 ปี แต่ก็ใช่ว่าจะง่ายและไร้ซึ่งขวากหนามเหมือนที่ผ่าน ๆ มา (ถ้าไม่นับ ก.ล.ต.)
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกรวมถึงตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นขาลงอยู่อย่างในช่วงนี้ การเข้ามาของ InnovestX (SCBS) อาจจะเป็นข้อดีที่ช่วยทำให้ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในบ้านเรากลับมาคึกคักมากขึ้นได้อีกครั้ง และยังเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้แก่ผู้บริโภคอย่างเรา ให้มีตัวเลือกในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น เราอาจจะได้เห็นผู้ที่สนใจในสินทรัพย์ดิจิทัลหน้าใหม่เข้าสู่วงการนี้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นเรื่องน่าสนใจและน่าจับตามองต่อไปสำหรับอนาคตวงการคริปโตเคอเรนซี่บ้านเรา จากเดิมที่ประเทศไทยมีสถิติว่าเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ที่ผู้คนสนใจสินทรัพย์ดิจิทัล การมาของรายใหญ่ในครั้งนี้ อาจจะทำให้สถิตินี้สูงขึ้นอีกก็เป็นได้
