Meta นำ NFT Minting และการซื้อขายมาสู่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Instagram ถูกตั้งค่าให้แนะนำเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับโทเค็น NFT จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้ครีเอเตอร์สร้าง แสดง และ ขาย NFT ได้
Meta บริษัทแม่ของ Instagram กล่าวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนระหว่างงาน Creator Week 2022 ว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวจะอนุญาตให้ผู้สร้างสร้าง “ของสะสมดิจิทัล” และขายได้ “ทั้งในและนอก Instagram”
Meta กล่าวว่าผู้สร้างจะมี “ชุดเครื่องมือแบบครบวงจร” จากการสร้าง แสดง จากนั้นขาย NFT ภายในแพลตฟอร์ม และเลือกบล็อกเชนรูปหลายเหลี่ยมเป็นพันธมิตรเริ่มต้นสำหรับฟังก์ชันนี้
โดยระบุว่า “กลุ่มเล็กๆ” ของครีเอเตอร์จากสหรัฐอเมริกาจะมีสิทธิ์ทดสอบคุณลักษณะใหม่นี้และจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ตามมา แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าจะมีการดำเนินการนี้เมื่อใด
นอกเหนือจากกลุ่มผลิตภัณฑ์บล็อกเชนที่รองรับในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง Ethereum, Flow (FLOW) และ Polygon Metaยังเปิดเผยถึงการสนับสนุน Solana blockchain และ Phantom wallet ยอดนิยมอีกด้วย
การสนับสนุนสำหรับวิดีโอ NFT จะถูกเพิ่มเข้ามา และข้อมูลMeta เช่น ชื่อและคำอธิบายสำหรับคอลเลกชัน NFT ที่เลือกจะถูกดึงออกจากตลาดกลาง NFT OpenSea
Stephane Kasriel หัวหน้าฝ่ายการค้าและเทคโนโลยีทางการเงินของMeta กล่าวว่าMeta จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการสร้างหรือขาย NFT จนถึงปี 2024 และค่าธรรมเนียมก๊าซบล็อคเชนสำหรับผู้ซื้อจะครอบคลุมโดยMeta “ตอนเปิดตัว” แต่ไม่ได้ชี้แจงว่าการเปิดตัวนานแค่ไหน
Kasriel กล่าวว่าการทำธุรกรรม NFT ยังคงต้อง “ค่าธรรมเนียมร้านแอป” ซึ่งหมายถึงค่าคอมมิชชั่น 30% ของ Apple จากการขาย NFT ซึ่งได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีราคาแพงกว่าค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ย 2.5% ที่บังคับใช้โดยตลาด NFT เช่น OpenSea
ด้วยเหตุนี้ ผู้ซื้อจึงดูเหมือนจะไม่สามารถซื้อ Instagram NFT โดยใช้ crypto ผ่านแอพ Instagram ได้ เนื่องจากทั้ง Apple และ Google รองรับเฉพาะการซื้อในแอพโดยใช้สกุลเงิน fiat และทั้งสองปุ่มต้องห้าม ลิงก์ภายนอก หรือการกระทำอื่นๆ ที่ให้ทางผู้ใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าคอมมิชชั่นของพวกเขา
Metaยังไม่ได้เปิดเผยจำนวนค่าคอมมิชชั่นที่วางแผนจะใช้จากการขาย NFT หรือระบบค่าลิขสิทธิ์ของผู้สร้างจะหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่ทราบว่าจะเป็นไปตามแรงผลักดันล่าสุดจากตลาดกลางของ NFT เพื่อเปลี่ยนไปใช้แบบจำลองค่าลิขสิทธิ์หรือไม่
ที่มา : cointelegraph