Microstategy ขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท หลังราคาเหรียญยังไม่ฝื้นตัว

Microstategy ขาดทุน 1.3 แสนล้านบาท หลังราคาเหรียญยังไม่ฝื้นตัว

Microstategy บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อการวิเคราะห์ธุรกิจและบริษัทผู้ถือครองบิทคอยน์(Bitcoin) ในมือมากที่สุด ขณะนี้เริ่มส่งสัญญาณทางการเงินที่เริ่มติดขัด จากการที่เงินลงทุนในบิทคอยน์ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการกู้เงิน และราคาบิทคอยน์ในขณะนี้ที่ยังล่วงลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฐานะการเงินของบริษัทอาจเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตอันใกล้

Microstategy เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนในบิทคอยน์เช่นเดียวกันกับบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Tesla มีผู้ร่วมก่อตั้งคือ Michael saylor บุคคลที่มีความสนใจเป็นอย่างมากในโลกคริปโคเคอเรนซี่ เขาประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของบริษัท และย้ายมานั่งตำแหน่งประธานบอร์ดบริหารของบริษัทเพื่อลดภาระด้านการบริหาร เพื่อเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพียงอย่างเดียว

 

ที่ผ่านมาบริษัทมีการเข้าซื้อบิทคอยน์มาเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันยอดสะสมเหรียญบิทคอยน์ที่ทางบริษัทถืออยู่มีจำนวนทั้งสิ้น 130,000 BTC คิดเป็นจำนวนเงินลงทุนกว่า 4,932.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเทียบเป็นเงินบาทไทยที่ 188,432.41 ล้านบาท

 

ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าราคาของบิทคอยน์ตั้งแต่ต้นปี 2022 นั้นมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง จากราคาสูงสุดในครั้งก่อนที่ทำไว้ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ / บิทคอยน์ ตกลงมาอยู่ที่ราว 19,000 ดอลลาร์สหรัฐ / บิทคอยน์ ทำให้ปัจจุบันบริษัทขาดทุนจากการลงทุนในบิทคอยน์กว่า 2,454 ล้านดอลลารห์สหรัฐ หรือราว 93,742 ล้านบาท

 

ที่สำคัญคือที่มาของเงินลงทุนในบิทคอยน์ที่บริษัทจัดหามานั้น ส่วนหนึ่งเป็นเงินที่เกิดจากการกู้ยืมมาลงทุน เช่น หุ้นกู้ และการกู้ยืมเงินจากสถาบันอื่น ๆ ซึ่งจะครบกำหนดจ่ายคืนครั้งแรกในอีก 17 เดือนหลังจากนี้ และบริษัทจะต้องจ่ายคืน 755 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อครบกำหนด

 

หากมองย้อนกลับมาที่ผลการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งที่เป็นแหล่งรายได้สำคัญที่ทางบริษัทมีจะพบว่าผลประกอบการของบริษัทเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการใช้คืนหนี้ได้ทั้งหมด

 

จากรายงานของ Fortune ตัวบริษัทมีธุรกิจหลักคือการทำโปรแกรมซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจ ซึ่งขณะนี้สามารถสร้างเม็ดเงินกำไรให้แก่บริษัทได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยของการกู้ยืมเงินมาลงทุนในบิทคอยน์ อาจทำให้เกิดผลร้ายต่องบการเงินบริษัทได้

 

แม้เรื่องราวทั้งหมดที่เล่ามานี้จะทำให้คิดได้ว่า Microstategy อาจเข้าตาจนหรืออาจต้องล้มละลายหายไป แต่เมื่อมองดูในภาพที่กว้างขึ้น จะทำให้เราเห็นว่ามูลค่าโดยรวมของบริษัทที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นั้นยังคงเป็นที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับสภาพคล่องที่มีเพียงน้อยนิด

 

ราคาหุ้น MSTR ของบริษัทนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2020 ถึงปัจจุบัน สูงขึ้นกว่า 123% ซึ่งเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ อย่าง BTC , S&P , Nasqad หรือหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ อย่าง GOOG , AAPL และ MST ที่เติบโตขึ้นที่ 94% , 23% , 13% , 54% , 43% และ 34% ตามลำดับ จะเห็นว่าบริษัทยังคงเติบโตกว่ามาก

 

และอีกไม่นานนี้ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2022 ของบริษัทก็จะถูกประกาศออกมา คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าบริษัทผู้ครอบครองบิทคอยน์ไว้มากที่สุดอย่างนั้น สถานะการเงินล่าสุดจะเป็นอย่างไร

 

ที่มา

https://bitcointreasuries.net/

ethereumworldnews.com

 

#ลองลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn