OpenSea บังคับใช้ค่าลิขสิทธิ์ของครีเอเตอร์กับคอลเล็กชันทั้งหมดหลังจากการวิจารณ์ของชุมชน

OpenSea บังคับใช้ค่าลิขสิทธิ์ของครีเอเตอร์กับคอลเล็กชันทั้งหมดหลังจากการวิจารณ์ของชุมชน

 

OpenSea ตลาด NFT ได้ประกาศว่าจะยังคงบังคับใช้ค่าลิขสิทธิ์ในทุกคอลเลกชั่นต่อไป หลังจากได้รับการวิจารณ์จากผู้สร้างเมื่อต้นสัปดาห์นี้

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. OpenSea ประกาศว่าพวกเขากำลังเปิดตัวเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถบังคับใช้ค่าลิขสิทธิ์สำหรับคอลเล็กชันใหม่บนแพลตฟอร์มได้ แต่หยุดให้บริการแบบเดียวกันแก่คอลเล็กชันที่มีอยู่

ในขณะนั้น ตลาดกล่าวว่าจะพิจารณาตัวเลือกต่างๆ ตั้งแต่การบังคับใช้ค่าธรรมเนียมนอกระบบสำหรับ “ชุดย่อยของคอลเล็กชันบางส่วน” ไปจนถึง “การอนุญาตค่าธรรมเนียมสำหรับผู้สร้างที่เป็นตัวเลือก” ไปจนถึง “การร่วมมือกับตัวเลือกการบังคับใช้แบบออนไลน์อื่นๆ สำหรับผู้สร้าง”

การประกาศดังกล่าวได้รับการตอบรับอย่างมากมายจากชุมชน โดยเรียกร้องให้ OpenSea ชี้แจงจุดยืนของตน โดยสังเกตว่าข้อความไม่ชัดเจน ในขณะที่คนอื่นมีปัญหากับข้อเสนอแนะ “ค่าธรรมเนียมผู้สร้างเพิ่มเติม”

ผู้สร้าง NFT บางคนเช่น Bobby Kim ผู้ร่วมก่อตั้ง The Hundreds เมื่อวันที่ 9 พ.ย. กล่าวว่าพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกการเผยแพร่คอลเล็กชันโทเค็น NFT ที่กำลังจะมีขึ้นใน OpenSea โดยสังเกตว่าพวกเขากำลัง “รอดูว่า OpenSea จะทำอย่างไร? จุดยืนในการรักษาค่าลิขสิทธิ์ของครีเอเตอร์สำหรับคอลเล็กชันที่มีอยู่”

“น่าเสียดายที่การประกาศนั้นมาไม่ทัน” เขากล่าว

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ผู้ก่อตั้ง Bored Ape Yacht Club (BAYC) ซึ่งรวมถึง Wylie Aronow, Greg Solano และ Kerem Atalay ได้กล่าวถึงการอภิปรายในบล็อกโพสต์ โดยกล่าวว่าการย้ายจาก OpenSea นั้น “ไม่ค่อยดี” และแสดงเจตจำนงที่จะ “ย้าย” กับที่เหลือและลบค่าลิขสิทธิ์ของผู้สร้างสำหรับคอลเลกชันดั้งเดิมออกจากแพลตฟอร์มของพวกเขา”

ดูเหมือนว่า OpenSea จะได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์และเป็นส่วนหนึ่งของโพสต์เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนบน Twitter ยืนยันว่าจะ “ยังคงบังคับใช้ค่าธรรมเนียมผู้สร้างกับคอลเล็กชันที่มีอยู่ทั้งหมด” เช่นกัน

OpenSea กล่าวว่า “รู้สึกทึ่งกับความหลงใหลที่เราเห็นจากครีเอเตอร์และนักสะสมในสัปดาห์นี้ เรากำลังมองหาความคิดเห็นของคุณ และเราได้ยินมันดังและชัดเจน”

ตามตลาด พวกเขา “จะเริ่มเปิดแหล่งข้อมูลของเราเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมผู้สร้างในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้”

ที่มา : cointelegraph

#ลองลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn