ทำความรู้จัก “Satori” หรือ “วิถีซาโตริ” ที่วัยรุ่นญี่ปุ่นยึดเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต แนวคิดการปล่อยวางชีวิต ล้มเลิกความอยากที่จะเจริญก้าวหน้าในการงาน ละทิ้งความฝันที่จะประสบความสำเร็จและความร่ำรวย เพราะบริบททางสังคม เศรษฐกิจ ที่ตรึงและแข่งขัน เข้มงวดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อไม่นานที่ผ่านมา ทางลองลงทุนพึ่งจัดทำบทความเรื่อง “Let it rot กระแสเลิกสนใจความสำเร็จของคนจีน ที่ทำสีจิ้นผิง ต้องออกโรงเตือน” เกี่ยวกับแนวคิดการปล่อยวางความสำเร็จและเลิกล้มความพยายามของวัยรุ่นจีน ซึงกระแสแนวความคิดดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก เห็นได้จากกระแสการลาออกครั้งยิ่งใหญ่(The Great Resignation) หรือการลาออกจากการทำงานหนักแบบเงียบ ๆ (Quiet quitting) ที่เกิดขึ้นทางฝั่งซีกโลกตะวันตก
ในซีกโลกตะวันออกนอกจากกระแส Let it rot และ Lying Flat ที่เกิดขึ้นในจีน ที่ญี่ปุ่นก็เกิดกระแสที่ใกล้เคียงกันนี้ขึ้นด้วยเช่นกัน โดยที่แนวคิดดังกล่าวนั้นเรียกว่า “Satori” หรือ “วิถีซาโตริ”
Satori มีความหมายว่าอย่างไร?
คำว่า Satori(ซาโตริ) หากแปลความหมายตรงตัวคำนี้จะแปลว่า การตื่นรู้ การรู้แจ้งแห่งสภาวะความจริงสูงสุด มักจะพบเห็นได้บ่อยตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายเซ็น แต่ความหมายในบริบทนี้ที่ถูกนำมาใช้ มักจะหมายความถึงแนวทางการใช้ชีวิตที่ “ปล่อยวาง” มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมี และไม่คาดหวังกับทรัพย์สมบัติมูลค่าสูงอย่าง บ้าน หรือรถยนต์ เป็นต้น
ผู้ที่ยึดถือแนวทางนี้จึงมักที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ลดการพูดคุยกับบุคคลที่ไม่เปิดรับความคิดซึ่งกันและกัน และเลือกที่จะใช้ชีวิตบนความกดดันจากสิ่งต่าง ๆ ให้น้อยลง เช่น ลดความกดดันจากความต้องการที่จะเข้ามหาลัยชั้นนำของประเทศ เปลี่ยนกรอบแนวคิดการทำงานที่จะต้องประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นการทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพไปวัน ๆ และเลิกล้มความคิดที่จะรวย
สาเหตุที่ทำให้แนวคิดSatoriได้รับความนิยมมากขึ้น
ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดแนวความคิดแบบนี้ขึ้นคงหนีไม่พ้นสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตลดลงของญี่ปุ่น หลายบริษัทจึงต้องปรับตัวลดอัตราการจ้างงานลง หรือรุนแรงถึงขั้นปรับลดจำนวนพนักงาน โดยปกติญี่ปุ่นเป็นหนึ่งประเทศที่มีอัตราการแข่งขันในตลาดแรงงานสูงอยู่แล้ว ประกอบกับสภาวะการแบบนี้ จึงยิ่งทำให้คนกลุ่มนี้มองไม่เห็นหนทางที่จะร่ำรวย จึงเลือกหางานพาร์ทไทม์ซึ่งหาได้ง่ายกว่าทำ
อีกหนึ่งปัจจัยคือวัฒนธรรมการทำงานของคนญี่ปุ่น ที่ต้องอุทิศตัวให้กับการทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงล่วงเวลาตลอดชีวิตการทำงานโดยไม่มีเวลาพักผ่อน แนวทางแบบนี้จึงสวนทางกับกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ ที่มองเรื่องสมดุลของชีวิตเป็นหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ
Satori จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งกระแสแนวคิดการใช้ชีวิตที่ถือกำเนิดใหม่ขึ้นมาในระยะหลังนี้ ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของโลกถดถอยลง ความเป็นอยู่ของประชาชนโลกยากลำบาก และความเหลื่อมล้ำในสังคมมีสูงขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้คนจะถอยใจและเกิดเป็นแนวคิดแบบนี้ขึ้นมา
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ แนวความคิดแบบนี้หากได้รับความนิยมมากขึ้น จะทำให้สังคมขาดแรงงานหรือไม่ และจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจโลกที่ถดถอยอยู่แล้ว ถดถอยหนักขึ้นกว่าเดิมรึปล่าว จึงเป็นคำถามที่น่าสนใจและอาจต้องหาทางแก้ไขต่อไป
อ้างอิง
https://intsharing.co/archives/8599