SBF เป็น ‘ผู้สนับสนุนรายใหญ่’ ในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ

SBF เป็น 'ผู้สนับสนุนรายใหญ่' ในการเลือกตั้งของสหรัฐฯ

 

SBF หรือ Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX มหาเศรษฐีคริปโตและ ยอมรับว่าเป็น “ผู้บริจาครายใหญ่” ให้กับทั้งสองฝ่ายของสเปกตรัมทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งปี 2022

ไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 8 พ.ย. SBF บอกกับผู้ติดตาม Twitter ของเขาว่าเขาได้บริจาคเงินสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงทั้งสองด้านของฝั่ง

มหาเศรษฐีคริปโตกล่าวว่าเขาได้ “สนับสนุนผู้สมัครที่สร้างสรรค์ทั่วทั้งทางเดินเพื่อป้องกันการระบาดใหญ่และนำบรรยากาศของพรรคสองพรรคมาสู่ DC” รวมถึง “ทำงานร่วมกับพวกเขาเพื่อสนับสนุนการเงินที่ไม่ได้รับอนุญาต”

SBF กล่าวเสริมว่าการทำงานร่วมกับ Ryan Salame ซีอีโอร่วมของ FTX Digital Markets เขาได้ลงนามในแคมเปญเพื่อยอมรับคริปโต “และมอบบางส่วน รวมถึงเงินจำนวนหลายล้านให้กับวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร”

เมื่อต้นปีนี้ Cointelegraph รายงานว่าSBF กำลังวางแผนที่จะใช้เงินสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อช่วยโน้มน้าวการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 แผนการที่แท้จริงของเขาคือการแบ๊งค์ผู้สมัครที่ต่อสู้กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ในปี 2020 SBFได้บริจาคเงิน 5.2 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับแคมเปญประธานาธิบดี Joe Biden

ตาม Open Secrets ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ติดตามเงินในด้านการเมืองSBF เป็นผู้สนับสนุนทางการเมืองรายใหญ่อันดับหก แพลตฟอร์มรายงานว่าเขาได้บริจาคเงินทั้งหมด 39.8 ล้านดอลลาร์สำหรับรอบปี 2564-2565

จากทั้งหมดนั้น 92% ตกเป็นของพรรคเดโมแครต ส่วนที่เหลือเป็นของผู้สมัครรับเลือกตั้งและการหาเสียงของพรรครีพับลิกัน Salame ซีอีโอร่วมของ FTX สนับสนุนด้านสีแดงของการแบ่งแยกทางการเมือง โดยบริจาคเงิน 23.6 ล้านดอลลาร์ให้กับแคมเปญของพรรครีพับลิกันสำหรับรอบปัจจุบัน

ผู้มีส่วนร่วมทางการเมืองอันดับต้นๆ คือ George Soros นักลงทุนมหาเศรษฐี ซึ่งให้คำมั่นว่าจะให้เงิน 128.5 ล้านดอลลาร์แก่พรรคเดโมแครต Peter Thiel ผู้ร่วมทุนมหาเศรษฐี ซึ่งสนับสนุนการเริ่มต้นคริปโตหลายราย อยู่ในอันดับที่ 9 ในรายการด้วยเงิน 32.6 ล้านดอลลาร์สำหรับพรรครีพับลิกัน

Bankman-Fried ยังสนับสนุนคณะกรรมการดำเนินการทางการเมือง (PAC) Protect Our Future ซึ่งจัดตั้งขึ้นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 และใช้เงินมากกว่า 9 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเดโมแครต

คริปโตกลายเป็นประเด็นโต้แย้ง โดยขณะนี้มีฐานผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและคริปโตมากขึ้น จากการสำรวจล่าสุดโดยผู้จัดการกองทุน Grayscale พบว่า 38% ของผู้ตอบแบบสอบถามจะ “พิจารณาจากที่นโยบายคริปโต” เมื่อเลือกผู้สมัคร

ที่มา : cointelegraph

#ลองลงทุน

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn