การทดลอง CBDC ของ SWIFT ชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าวสามารถอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนและเป็นประโยชน์ต่อเครือข่ายการเงินทั่วโลก
Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication (SWIFT) ดำเนินการทดลองใช้เทคโนโลยีต่างๆ และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) เป็นเวลา 8 เดือน
โดยกำหนดว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าวสามารถมีส่วนร่วมในระบบนิเวศทางการเงินทั่วโลกและช่วยเหลือการชำระเงินข้ามพรมแดน
การทดลอง CBDC
เมื่อต้นปีนี้ SWIFT ได้เปิดตัวโปรแกรมที่มีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมโยงระบบ CBDC ต่างๆ และช่วยลดปัญหาในการตั้งถิ่นฐานข้ามพรมแดน ย้อนกลับไปในตอนนั้น Thomas Zschach หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมอ้างว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเป็น “จุดบอด” และเมื่อใช้งานร่วมกัน พวกเขาสามารถเปิดใช้งานธุรกรรมที่ “ราบรื่น” ระหว่างประเทศต่างๆ
ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุดเปิดเผยว่าการทดลองใช้ของ SWIFT ได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า CBDC สามารถอำนวยความสะดวกในการชำระเงินระหว่างประเทศและเปลี่ยนเป็นเงิน fiat ได้หากจำเป็น
เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้เล่นหลักในด้านการเงิน เช่น ธนาคารกลางของฝรั่งเศสและเยอรมนี, HSBC, Standard Chartered และ UBS ก็มีส่วนร่วมในการทดลองเช่นกัน SWIFT ระบุว่าโซลูชัน CBDC ใหม่สามารถช่วยประเทศและเขตปกครองต่างๆ ได้กว่า 200 ประเทศทั่วโลก ธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ 14 แห่งได้รวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานแล้ว
“สกุลเงินดิจิทัลและโทเค็นมีศักยภาพมหาศาลในการกำหนดวิธีที่เราทุกคนจะจ่ายและลงทุนในอนาคต แต่ศักยภาพนั้นจะถูกปลดปล่อยออกมาได้ก็ต่อเมื่อแนวทางต่างๆ ที่กำลังสำรวจมีความสามารถในการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกัน
เรามองว่าความครอบคลุมและการทำงานร่วมกันเป็นเสาหลักของระบบนิเวศทางการเงิน และนวัตกรรมของเราเป็นก้าวสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพของอนาคตดิจิทัล” – Zschach กล่าว
มีการใช้โดยสถาบันมากกว่า 11,000 แห่งและบัญชี 4 พันล้านบัญชีใน 200 ประเทศ SWIFT เป็นระบบการส่งข้อความทางการเงินที่ใหญ่ที่สุด เมื่อหลายเดือนก่อน รัสเซียตัดทอนความสามารถของรัสเซียในการชำระบัญชีทรัพย์สินและโอนเงินในเครือข่าย เนื่องจากความขัดแย้งทางทหารที่ประเทศเริ่มต้นในยูเครน
การทดลองบล็อคเชนของ SWIFT
เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทสัญชาติเบลเยียมได้ร่วมมือกับบริษัท Fintech Symbiont Inc. เพื่อทดสอบกรณีการใช้งานของเทคโนโลยีบล็อกเชน สถาบันการเงินชั้นนำ เช่น Citigroup, Vanguard และ Northern Trust ก็เข้าร่วมโครงการเช่นกัน
Zschach แสดงความหวังว่าเทคโนโลยีพื้นฐานของ crypto จะช่วยให้ SWIFT “ประสานข้อมูลจากหลายแหล่งของเหตุการณ์การดำเนินการขององค์กร”
ที่มา : cryptopotato