จีนได้ตัดสินว่าประชาชนยังสามารถซื้อขาย cryptocurrencies ได้ แม้ว่าประเทศจะห้ามให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีนมีคำสั่งห้ามซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอยู่แล้ว โดยอ้างว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของภาคการเงิน
The Beijing Number One Intermediate People’s Court ตัดสินว่านักลงทุนที่สนใจสามารถแลกเปลี่ยนได้เฉพาะสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น แต่ควรได้รับการปฏิบัติเสมือนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลและไม่ทำหน้าที่เป็นเงินสด
การพิจารณาคดีเกิดขึ้นในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเงินกู้ crypto ใน Litecoin (LTC) โดยสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ยในสกุลเงินดิจิทัล กรณีเฉพาะระบุว่าในปี 2015 Zhai Wenjie ให้ยืม Ding Hao เพื่อนของเขา 50,000 Litecoin Zhai Wenjie กล่าวว่า Ding Hao สัญญาว่าจะจ่าย 1,000 Litecoins เป็นดอกเบี้ยต่อเดือน ซึ่งจำเลยปฏิเสธ
สถานะสกุลเงิน Litecoin
แม้ว่าศาลจะยอมรับการห้ามซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของจีนที่มีอยู่ ผู้พิพากษาประธานตั้งข้อสังเกตว่า Litecoin ไม่สามารถถือเป็นสกุลเงินได้ ตามที่ศาลกล่าว Crypto ไม่ได้ออกโดยหน่วยงานด้านการเงินควบคู่ไปกับการขาดการสนับสนุนจากกรอบกฎหมายและการเงิน
ศาลตัดสินว่า “ตามระเบียบและกรณีการบริหารจริง ประเทศของเราปฏิเสธเฉพาะคุณลักษณะทางการเงินของสกุลเงินดิจิทัลและห้ามการหมุนเวียนเป็นสกุลเงิน แต่สกุลเงินดิจิทัลนั้นเป็นทรัพย์สินดิจิทัลจริงที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย”
ที่น่าสนใจ ท่ามกลางการห้าม Bitcoin (BTC) ที่มีอยู่ ศาลได้พิจารณา Litecoin โดยสังเกตว่าประเทศมีกฎหมายที่ควบคุมทรัพย์สินดังกล่าว
ในกรณีนี้ ผู้พิพากษาอ้างว่าไม่มีกฎหมายที่ห้ามไม่ให้มีการรับรู้ Litecoin เป็นทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นผู้พิพากษาจึงตัดสินให้ผู้ร้องเรียนพิสูจน์ว่าจำเลยยืมสกุลเงินดิจิทัลและจึงสั่งให้เขาคืน Litecoin
จุดยืนของจีนในเรื่อง cryptocurrencies
การพิจารณาคดีสะท้อนให้เห็นถึงการตัดสินใจล่าสุดของศาลใน Chaoyang ที่สั่งไม่ให้บริษัทจ่ายเงินเดือนเป็น Tether (USDT) เนื่องจากการสั่งห้ามการหมุนเวียนของสินทรัพย์ดิจิทัล
เป็นที่น่าสังเกตว่าศาลในภูมิภาคต่างๆ ของจีนได้ออกคำตัดสินที่หลากหลายเกี่ยวกับการซื้อขายและการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ตัวอย่างเช่น ตามที่รายงานโดย Finbold ในเดือนพฤษภาคม ศาลที่เซี่ยงไฮ้ตัดสินว่า Bitcoin มี “มูลค่าทางเศรษฐกิจที่แน่นอน” และได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมายของประเทศ
ที่น่าสนใจ แม้จะมีการห้ามบริการ crypto แต่ข้อมูลใหม่บ่งชี้ว่าชาวจีนจำนวนมากขึ้นยังคงซื้อขายสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน ตามที่รายงานโดย Finbold ตอนนี้จีนอยู่ในอันดับที่สิบของโลกในการยอมรับ crypto
ที่มา : finbold