ความยากในการขุดบล็อกของ Bitcoin (BTC) ลดลงอีก 5% เหลือ 27.693 ล้านล้าน เนื่องจากปัญหาของเครือข่ายยังคงรักษาระดับการลงต่อเนื่องเป็นเวลาสามเดือนนับตั้งแต่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 31.251 ล้านล้านย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม 2565
ความยากของเครือข่ายเป็นวิธีที่คิดค้นโดยผู้สร้าง Bitcoin Satoshi Nakamoto เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมทั้งหมดนั้นถูกต้องตามกฎหมายโดยใช้พลังการประมวลผลแบบดิบ ความยากที่ลดลงช่วยให้ผู้ขุด Bitcoin ยืนยันธุรกรรมโดยใช้ทรัพยากรที่ต่ำกว่า ทำให้นักขุดรายย่อยมีโอกาสต่อสู้เพื่อรับรางวัลการขุด
แม้จะมีความพ่ายแพ้เล็กน้อย การย่อข้อมูลของ blockchain.com เผยให้เห็นว่า Bitcoin ยังคงทำงานเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ยืดหยุ่นและไม่เปลี่ยนแปลงได้มากที่สุด ในขณะที่การปรับความยากนั้นแปรผันโดยตรงกับพลังการแฮชของนักขุด แต่อัตราการแฮชทั้งหมด (TH/s) กลับคืนมา 3.2% ตลอดระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน ดังที่แสดงด้านล่าง
ที่จุดสูงสุด อัตราแฮชของ Bitcoin ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 231.428 exahash ต่อวินาที (EH/s) เมื่อราคา BTC ลดลงเหลือ 25,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้วในเดือนมิถุนายน ทำให้เกิดความกังวลชั่วขณะเกี่ยวกับการใช้พลังงานอย่างกว้างขวาง
นับตั้งแต่จีนสั่งห้ามการซื้อขายและการขุด crypto ทั้งหมดในเดือนมิถุนายน 2564 สหรัฐอเมริกาก็เริ่มหย่อนยานในการเป็นผู้สนับสนุนอัตราแฮช Bitcoin ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม นักขุดชาวจีนกลับมาเปิดดำเนินการในเดือนกันยายน 2564 ตามข้อมูลของ Statista สหรัฐฯ คิดเป็น 37.84% ของอัตราแฮชทั่วโลก รองลงมาคือจีนที่ 21.11% และคาซัคสถานที่ 13.22%
ก่อนหน้านี้ Cointelegraph รายงานว่าราคา GPU ที่ลดลงอย่างมากได้เปิดโอกาสเล็ก ๆ สำหรับนักขุดขนาดเล็กในการจัดหาอุปกรณ์การขุดที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังที่กล่าวไปแล้ว นักขุดมองว่าราคา GPU ที่ลดลงเป็นวิธีชดเชยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานท่ามกลางตลาดขาลงที่กำลังดำเนินอยู่
บรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่สูงเกินไป รายงานของสภาการขุด Bitcoin เปิดเผยว่าเกือบ 60% ของไฟฟ้าที่ใช้สำหรับการขุด BTC มาจากแหล่งที่ยั่งยืน
In Q2 2022, #Bitcoin mining efficiency surged 46% YoY, and sustainable power mix reached 59.5%, above 50% for the 5th quarter in a row. The network was 137% more secure YoY, only using 63% more energy. It is hard to find an industry more clean & efficient.https://t.co/gqYn8qew9R
— Michael Saylor⚡️ (@saylor) July 19, 2022
การศึกษายังพบว่าการขุด BTC คิดเป็นเพียง 0.09% ของการปล่อยคาร์บอน 34.8 พันล้านเมตริกตันที่คาดว่าจะผลิตขึ้นทั่วโลกและบริโภคเพียง 0.15% ของแหล่งพลังงานทั่วโลก
ที่มา : cointelegraph