ตำรวจ สอท. บุกบ้าน CEO Pminer หลอกลงทุนคริปโตโซนภาคเหนือ ยึดทรัพย์รวมกว่า 100 ล้านบาท!!

 

มีผู้เสียหายจำนวนมาก แห่เดินทางเข้าเเจ้งความกับตำรวจ ในกรณีการถูกหลอกจากบริษัท PMiner ในการให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีหุ้นส่วน 3 คน และใน 3 คนนั้นมี นายกิติกร เเละ เเฟนสาว

ในวันที่วันที่ 22 มิ.ย.65 ได้มีการเเปรสภาพจากห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็น บริษัท พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ กรุ๊ป โดยใช้ทุนจดทะเบียนเท่าเดิม เเต่มีวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น

เหตุเริ่มต้อนจากวันที่ 22 ส.ค.65 นายกิติกร มีการประกาศลงในกลุ่มการลงทุนว่า ตนมีปัญหาในการการขุดเหมือง ทำให้บริษัทขาดทุนไปกว่า 70% ของเหรียญที่มีอยู่ นั่นเป็นเพราะค่าไฟที่เเพงขึ้น จึงไม่คุ้มกับการดำเนินการขุดต่อ และนายกิติกรมีการขอว่าคนที่ได้กำไรไปเเล้ว เขาจะไม่ขอคืนเงินให้

เพราะเหตุนี้จึงทำให้มีผู้เสียหาย ได้รวมตัวกันที่บ้านของ นายกิติกร เพื่อขอเงินคืน หรืออย่างน้อยก็ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ก่อน ดังนั้นนายกิตติกร จึงทำการโอนเงินที่เป็นเงินปันผลคืนให้ผู้เสียหาย เเต่ไม่ใช่ทุกคนเพราะยังมีผู้เสียหายบางส่วนที่ยังไม่ได้เงินคืน กลุ่มคนที่เหลือจึงรวมกลุ่มเพื่อไปเเจ้งความที่ DSI จังหวัดเชียงใหม่ ,กองปราบ ,สถานีตำรวจในพื้นที่ รวมถึง สอท.ด้วย

อย่างไรก็ตาม มีผู้ที่อ้างตัวแทนเป็นทีมงาน P Miner ได้โพสต์ข้อความในฐานะตัวแทนทีมงานว่า ขอเป็นตัวแทนสมาชิกทีมงานของ p miner แสดงจุดยืนว่าพวกเราก็เป็นผู้เสียหายในการลงทุนทุกคน

  1. ทางบริษัทตอนนี้ไม่มีงบพอที่จะลงทุนอะไรทั้งสิ้น ถ้ามีจริงรบกวนเปิดโพยงบทั้งหมดที่มีอยู่ให้แก่ทุกคนได้รับทราบเพื่อความสบายใจของนักลงทุน
  2. ผู้ลงทุนจะไว้วางใจได้อย่างไรในเรื่องของการเทรดที่มีความเสี่ยงสูง อะไรคือหลักประกันที่พวกเราจะมั่นใจว่าจะมีกำไรมาผ่อนชำระหนี้สินหลังจากนี้ได้
  3. ทางบริษัทพนักงานทุกคนขอลาออกตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค. ขอยุติความเกี่ยวข้องทั้งหมดที่เกี่ยวกับบริษัท p miner
  4. ทางทีมงานได้รับการเยียวยาจริง แต่เป็นแค่ส่วนน้อยมากเมื่อรวมกับเงินต้นในการลงทุนทั้งหมด
  5. เหมืองทั้งหมดได้ถูกยกเลิกการขุดทั้งหมดเรียบร้อย ถ้ายังมีการขุดอยู่รบกวน นายกิติกร ช่วยโชว์หลักฐานแรงขุดให้ทุกคนรับทราบ
  6. เหมืองจีนที่ว่าตอนนี้กำลังเร่งขาย ถ้ามีจริงรบกวนแสดงหลักฐานทั้งหมดตอนนี้ให้ทุกคนรู้เห็น เพราะแม้แต่พนักงานทุกคนก็ไม่เคยเห็นของจริงอย่างที่ว่า
  7.  นายกิติกร ได้ทำการหลบหนีแล้ว ทิ้งพนักงานทุกคนไว้รับหน้าโดยไม่เคยแจ้งกล่าวล่วงหน้าแต่อย่างใด
  8. ตอนนี้นายกิติกรอยู่ที่ไหนทีมงานทุกคนไม่มีใครทราบ ยกเว้นคนขับรถกับครอบครัว

และในขณะนี้ ตำรวจ สอท.ได้ขอศาลออกหมายจับ นายกิติกร เเละ ณัฐวดี (แฟนสาว) เเล้ว ในคดีร่วมฉ้อโกงประชาชน ,ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เเละความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.เงินกู้

ล่าสุดวันที่ 29 ส.ค.65 ตำรวจ สอท. ได้บุกไปที่บ้าน กิติกร เพื่อยึดทรัพย์ และสิ่งที่ตำรวจยึดมาได้ประกอบไปด้วย

  1. รถหรู 5 คัน ยี่ห้อปอร์เช่ เเลมโบกินี บีเอ็มดับบลิว เฟอร์รารี เบนท์ลีย์
  2. นาฬิกาหรู
  3. บ้าน ที่ดิน
  4. เเละอายัดบัญชีกว่า 10 บัญชี รวมเป็นเงิน 101 ล้านบาท

ในการครวจค้นบ้าน นายกิติกร เเต่กับไม่พบว่ามีใครอยู่ภายในบ้านเลย จึงได้ตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง กับพบว่า นายกิติกร ยังไม่เดินทางออกนอกประเทศเเต่อย่างใด

พล.ต.ต.รณชัย ยังได้แนะนำว่าอยากให้ นายกิติกร กลับมาสู้คดี ตอบกลับว่าสิ่งที่เขาทำคืออะไร มีเจตนาจะคืนเงินผู้เสียหายไหม เพราะผู้เสียหาไม่ต้องการให้ใครติดคุก เเต่ต้องการเงินของเขาคืนเฉยๆ

ที่มา : ejan , mgronline

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Facebook
Twitter
LinkedIn