ยอดในการขายบ้านของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จำนวน 100 แห่งของจีนดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ค. ชี้ให้เห็นว่าว่าเหตุการณ์ที่ผู้ซื้อบ้านรวมตัวประท้วงด้วยการไม่จ่ายค่าจำนองบ้านนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอย่างรุนแรง
เปิดเผยรายงานจาก บริษัทไชน่า เรียล เอสเตท อินฟอร์เมชัน คอร์ป (CRIC) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยอสังหาริมทรัพย์ในวันนี้ว่า ยอดขายบ้านของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของจีนจำนวน 100 แห่งรวมกันร่วงลงกว่า 39.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ที่แตะ 5.231 แสนล้านหยวน (7.8 หมื่นล้านดอลลาร์) เนื่องจากความต้องการยังคงซบเซาท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แม้ว่ารัฐบาลจะพยายามกระตุ้นการซื้อแล้วก็ตาม
การปรับตัวลดลงของหุ้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนในวันที่ 1 ส.ค. หลังจาก CRIC เผยข้อมูลการซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นครั้งแรก ตั้งแต่บรรดาผู้ซื้อบ้านไม่ยอมจ่ายค่าจำนองสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ยอดการปล่อยกู้ให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวในอัตราที่ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในสิ้นเดือนมิ.ย. เนื่องจากธนาคารระมัดระวังการให้กู้ยืมแก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ขาดแคลนเงินสด
ผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยฮ่องกงเตือนว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนกำลังเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้จำนองมูลค่าสูงถึง 3.50 แสนล้านดอลลาร์ ในขณะที่ความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนถดถอยอย่างมาก แม้ทางการจีนพยายามที่จะควบคุมไม่ให้รุนแรงมากขึ้นก็ตาม
นายเฉิน จื้ออู่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงกล่าวว่า การที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของจีนจำนวนมากหยุดโครงการก่อสร้างนั้น ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อบ้าน และส่งผลให้เกิดเหตุที่ผู้กู้ไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้จำนองในเมืองต่าง ๆ กว่า 90 แห่ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจจีนเป็นวงกว้าง
ที่มา : infoquest